ขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นแล้วก็ต้องมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทั้งสัญลักษณ์ มีเอกลักษณ์ ทั้งให้ความรู้และความสวยงาม แต่มีอยู่แห่งหนึ่งที่มีสัญลักษณ์แปลกตา คือส่วนที่หลงเหลือจากงาน Expo'70 อยู่ในสวนแห่งหนึ่ง ณ จังหวัดโอซาก้า ให้ได้เที่ยวและถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ กันที่ สวนอนุสรณ์บัมปาคุ (万博記念公園) กันค่ะ
สวนอนุสรณ์บัมปาคุ (Banpaku memorial park) หรือ Expo'70 Commemorative Park คือ สวนสาธารณะซึ่งเคยเป็นสถานที่จัดงาน The Japan World Exposition ในปี 1970 ที่ใหญ่โตมาแล้วนั้น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งเมื่อไปถึงโอซาก้าค่ะ ในส่วนของสวนอนุสรณ์บัมปาคุแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองซุยตะ (Suita) จังหวัดโอซาก้า (Osaka) บนพื้นที่กว่าพันไร่ ด้วยความกว้างขวางนี้ทำให้มีการจัดโซนต่างๆ ในสวนกว้างใหญ่แห่งนี้เอาไว้ให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวชม ซึ่งมีทั้งสวนกว้างที่มีต้นไม้ ดอกไม้ และพืชพันธุ์ต่างๆ ให้ได้ชมกัน หรือใครที่ชอบความเป็นญี่ปุ่นและความร่มรื่นของต้นไม้ ที่นี่ก็มีสวนญี่ปุ่นให้ได้ชมกันตามแต่ละช่วงฤดูกาลได้อีกด้วยค่ะ หรือใครที่มีลูกหลานไปด้วย ที่สวนอนุสรณ์บัมปาคุแห่งนี้มีลานจักรยานรูปทรงต่างๆ เครื่องเด็กเล่นสไลเดอร์ขนาดใหญ่ ที่ความสูง 12 เมตร และเรือมหาสนุก EXPO MIRAI GO! หนึ่งในเครื่องเล่นรูปร่างเรือ ที่ถูกรายล้อมไปด้วยสัตว์ประหลาดจากท้องทะเล ให้เด็กๆ ได้เลือกเล่นกันอย่างสนุกด้วยค่ะ
นอกจากนี้แล้วยังมีโซนที่สามารถเล่นกีฬา ทำกิจกรรมย่างบาบีคิว หรือใครอยากผ่อนคลายก็แช่ออนเซนได้ ไม่ว่ากันค่ะ แต่ถ้าใครชอบเรือแล้วละก็ ที่สวนแห่งนี้ก็มีทะเลสาบให้ได้ลงเรือถีบ กินลมชมวิว และยังได้ชมเรือที่ใช้ในการเดินทางรอบโลกลำที่เล็กที่สุดที่ถูกบันทึกในกินเนสส์บุ๊คแล้วอย่างเรือยอชท์อาโฮโดรินิเซโก (Ahoudori Nisego) ซึ่งตั้งโชว์อยู่บนฝั่งริมทะเลสาบแห่งนี้ด้วยค่ะ และยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งของที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของงาน Expo'70 จากประเทศต่างๆ ให้ได้ชมกันด้วยค่ะ แต่อีกหนึ่งจุดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ก็คือ Tower of the Sun หรือ หอคอยพระอาทิตย์ค่ะ หอคอยพระอาทิตย์นี้ถูกสร้างขึ้น ในปี ค.ศ.1970 โดยศิลปิน โอคาโมโตะ ทาโร่ (Okamoto Taro) และเมื่อหลังจากจบงาน หอคอยแห่งนี้ก็เปิดให้เข้าชม แต่ต่อมาก็มีการปิดปรับปรุงหอคอยแห่งนี้ไปนานถึง 50 ปี และเปิดอีกครั้งตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ปี 2018 เป็นต้นมาค่ะ หอคอยพระอาทิตย์มีความสูง 70 เมตร ความยาวของปีกที่กางออกด้านละ 25 เมตร และฐานของหอคอยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 เมตร
หอคอยพระอาทิตย์นี้ประกอบไปด้วยใบหน้าของพระอาทิตย์ 3 ใบหน้าด้วยกันค่ะ โดยใบหน้าแรกคือ ใบหน้าพระอาทิตย์สีทอง ที่อยู่ด้านบนสุดของหอคอย มีเส้นผ่านศูนย์กลางของใบหน้าพระอาทิตย์ที่ 10.6 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลางดวงตาของพระอาทิตย์อยู่ที่ 2 เมตร โดยใบหน้าพระอาทิตย์สีทองนี้มีความหมายถึง อนาคต ต่อมาเป็นใบหน้าที่สอง คือ ใบหน้าพระอาทิตย์กลางหอคอย ที่อยู่ด้านหน้าของหอคอยแห่งนี้ มีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 12 เมตรค่ะ ใบหน้าพระอาทิตย์กลางหอคอยนี้มีความหมายถึง ปัจจุบัน และใบหน้าที่สาม คือ ใบหน้าพระอาทิตย์สีดำ ซึ่งอยู่ด้านหลังของหอคอย มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เมตร ซึ่งใบหน้าพระอาทิตย์สีดำมีความหมายถึง อดีตที่ผ่านมานั่นเองค่ะ แต่จริงๆ แล้วนอกจากพระอาทิตย์ ทั้งสามใบหน้านี้แล้วยังมีพระอาทิตย์ใบหน้าที่สี่ ซึ่งอยู่ในนิทรรศการใต้ดินของอาคารที่ใช้กันในช่วงงาน Expo ซึ่งเรียกว่า พระอาทิตย์ใต้ดิน มีขนาดใหญ่ที่ความสูง 3 เมตรและความยาว 11 เมตร เป็นที่น่าเสียดายที่พระอาทิตย์ใต้ดินนี้ได้หายไปพร้อมกับงาน Expo ได้เกือบ 50 ปีแล้วค่ะ
หอคอยพระอาทิตย์ นอกจากจะเป็นหน้าเป็นตาของโอซาก้าแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังเป็นอีกหนึ่งทูตทางศิลปะของประเทศญี่ปุ่น เพราะได้เคยไปปรากฏอยู่ในฉากหนึ่งของอนิเมะชั่นชื่อดังของญี่ปุ่นอย่างเรื่อง 20th Century Boys มาแล้วค่ะ ด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกตา มองแล้วชวนสงสัยตั้งครั้งแรกที่ได้เห็นแบบนี้ ถ้าได้ไปเยือนโอซาก้า อย่าลืมแวะไปทำความรู้จักกับพระอาทิตย์ที่ยืนตระหง่านรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ท่านๆ อยู่ที่สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้า ณ สวนบัมปาคุกันนะคะ
ข้อมูลจาก
https://osaka-info.jp/th/
http://komachijp.com/osaka/14721
https://taiyounotou-expo70.jp/about/
https://osaka-info.jp/th/page/expo-70-commemorative-park
https://japantravel.navitime.com/th/area/jp/spot/02301-130500
สวนอนุสรณ์บัมปาคุ (Banpaku memorial park) หรือ Expo'70 Commemorative Park คือ สวนสาธารณะซึ่งเคยเป็นสถานที่จัดงาน The Japan World Exposition ในปี 1970 ที่ใหญ่โตมาแล้วนั้น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งเมื่อไปถึงโอซาก้าค่ะ ในส่วนของสวนอนุสรณ์บัมปาคุแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองซุยตะ (Suita) จังหวัดโอซาก้า (Osaka) บนพื้นที่กว่าพันไร่ ด้วยความกว้างขวางนี้ทำให้มีการจัดโซนต่างๆ ในสวนกว้างใหญ่แห่งนี้เอาไว้ให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวชม ซึ่งมีทั้งสวนกว้างที่มีต้นไม้ ดอกไม้ และพืชพันธุ์ต่างๆ ให้ได้ชมกัน หรือใครที่ชอบความเป็นญี่ปุ่นและความร่มรื่นของต้นไม้ ที่นี่ก็มีสวนญี่ปุ่นให้ได้ชมกันตามแต่ละช่วงฤดูกาลได้อีกด้วยค่ะ หรือใครที่มีลูกหลานไปด้วย ที่สวนอนุสรณ์บัมปาคุแห่งนี้มีลานจักรยานรูปทรงต่างๆ เครื่องเด็กเล่นสไลเดอร์ขนาดใหญ่ ที่ความสูง 12 เมตร และเรือมหาสนุก EXPO MIRAI GO! หนึ่งในเครื่องเล่นรูปร่างเรือ ที่ถูกรายล้อมไปด้วยสัตว์ประหลาดจากท้องทะเล ให้เด็กๆ ได้เลือกเล่นกันอย่างสนุกด้วยค่ะ
นอกจากนี้แล้วยังมีโซนที่สามารถเล่นกีฬา ทำกิจกรรมย่างบาบีคิว หรือใครอยากผ่อนคลายก็แช่ออนเซนได้ ไม่ว่ากันค่ะ แต่ถ้าใครชอบเรือแล้วละก็ ที่สวนแห่งนี้ก็มีทะเลสาบให้ได้ลงเรือถีบ กินลมชมวิว และยังได้ชมเรือที่ใช้ในการเดินทางรอบโลกลำที่เล็กที่สุดที่ถูกบันทึกในกินเนสส์บุ๊คแล้วอย่างเรือยอชท์อาโฮโดรินิเซโก (Ahoudori Nisego) ซึ่งตั้งโชว์อยู่บนฝั่งริมทะเลสาบแห่งนี้ด้วยค่ะ และยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งของที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของงาน Expo'70 จากประเทศต่างๆ ให้ได้ชมกันด้วยค่ะ แต่อีกหนึ่งจุดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ก็คือ Tower of the Sun หรือ หอคอยพระอาทิตย์ค่ะ หอคอยพระอาทิตย์นี้ถูกสร้างขึ้น ในปี ค.ศ.1970 โดยศิลปิน โอคาโมโตะ ทาโร่ (Okamoto Taro) และเมื่อหลังจากจบงาน หอคอยแห่งนี้ก็เปิดให้เข้าชม แต่ต่อมาก็มีการปิดปรับปรุงหอคอยแห่งนี้ไปนานถึง 50 ปี และเปิดอีกครั้งตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ปี 2018 เป็นต้นมาค่ะ หอคอยพระอาทิตย์มีความสูง 70 เมตร ความยาวของปีกที่กางออกด้านละ 25 เมตร และฐานของหอคอยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 เมตร
หอคอยพระอาทิตย์นี้ประกอบไปด้วยใบหน้าของพระอาทิตย์ 3 ใบหน้าด้วยกันค่ะ โดยใบหน้าแรกคือ ใบหน้าพระอาทิตย์สีทอง ที่อยู่ด้านบนสุดของหอคอย มีเส้นผ่านศูนย์กลางของใบหน้าพระอาทิตย์ที่ 10.6 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลางดวงตาของพระอาทิตย์อยู่ที่ 2 เมตร โดยใบหน้าพระอาทิตย์สีทองนี้มีความหมายถึง อนาคต ต่อมาเป็นใบหน้าที่สอง คือ ใบหน้าพระอาทิตย์กลางหอคอย ที่อยู่ด้านหน้าของหอคอยแห่งนี้ มีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 12 เมตรค่ะ ใบหน้าพระอาทิตย์กลางหอคอยนี้มีความหมายถึง ปัจจุบัน และใบหน้าที่สาม คือ ใบหน้าพระอาทิตย์สีดำ ซึ่งอยู่ด้านหลังของหอคอย มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เมตร ซึ่งใบหน้าพระอาทิตย์สีดำมีความหมายถึง อดีตที่ผ่านมานั่นเองค่ะ แต่จริงๆ แล้วนอกจากพระอาทิตย์ ทั้งสามใบหน้านี้แล้วยังมีพระอาทิตย์ใบหน้าที่สี่ ซึ่งอยู่ในนิทรรศการใต้ดินของอาคารที่ใช้กันในช่วงงาน Expo ซึ่งเรียกว่า พระอาทิตย์ใต้ดิน มีขนาดใหญ่ที่ความสูง 3 เมตรและความยาว 11 เมตร เป็นที่น่าเสียดายที่พระอาทิตย์ใต้ดินนี้ได้หายไปพร้อมกับงาน Expo ได้เกือบ 50 ปีแล้วค่ะ
หอคอยพระอาทิตย์ นอกจากจะเป็นหน้าเป็นตาของโอซาก้าแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังเป็นอีกหนึ่งทูตทางศิลปะของประเทศญี่ปุ่น เพราะได้เคยไปปรากฏอยู่ในฉากหนึ่งของอนิเมะชั่นชื่อดังของญี่ปุ่นอย่างเรื่อง 20th Century Boys มาแล้วค่ะ ด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกตา มองแล้วชวนสงสัยตั้งครั้งแรกที่ได้เห็นแบบนี้ ถ้าได้ไปเยือนโอซาก้า อย่าลืมแวะไปทำความรู้จักกับพระอาทิตย์ที่ยืนตระหง่านรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ท่านๆ อยู่ที่สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้า ณ สวนบัมปาคุกันนะคะ
ข้อมูลจาก
https://osaka-info.jp/th/
http://komachijp.com/osaka/14721
https://taiyounotou-expo70.jp/about/
https://osaka-info.jp/th/page/expo-70-commemorative-park
https://japantravel.navitime.com/th/area/jp/spot/02301-130500