Kansai ภูมิภาคคันไซถือเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะเป็นถิ่นที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอันสวยงามของประเทศญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่มีเมืองใหญ่อันศิวิไลซ์อย่างโอซาก้าเป็นจุดศุนย์กลางของภูมิภาค โกเบ เมืองท่าขนาดใหญ่ เกียวโต เมืองหลวงเก่าและเมืองมรดกโลก ทำให้การท่องเที่ยวในแถบนี้ครบรส ไม่ว่าจะเป็นการช็อปปิ้ง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหรือทางธรรมชาติ ก็สนุกสนานได้ไม่มีเบื่อ
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เราเลือกที่จะมุ่งตรงไปยังเมืองหลวงเก่าเลื่องชื่ออย่างเกียวโต เมืองที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมนับไม่ถ้วนและถือเป็นเมืองที่มีมรดกโลกมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นถึง 17 แห่ง
เราเดินทางออกจากสนามบินนานาชาติดอนเมือง ไปยังสนามบินนานาชาติคันไซหรือ Kansai International Airport(KIX) ซึ่งเป็นสนามบินหลักของภูมิภาคนี้ ซึ่งหลังจากเราเดินทางเข้าสู่อาคารผู้สารก็จะพบกับป้ายต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน
เมื่อผ่านวิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว สิ่งแรกที่เราจะต้องทำคือการนำ Voucherหรือใบจองตั๋วรถไฟที่ได้ซื้อสำรองไว้ไปแลก ณ จุดจำหน่ายตามแต่ละบริษัท สำหรับการเดินทางไปยังต่อเกียวโตจากสนามบินนานาชาติคันไซ เราได้ทำการจองตั๋วรถไฟขบวน Haruka Express ซึ่งจะมุ่งตรงไปถึงเมืองเกียวโตโยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น
เราสามารถจองตั๋วไฟ Haruka Express ได้จากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยก่อนออกเดินทาง, จองจากตัวแทนจำหน่ายและเลือกรับบัตรโดยสารรถไฟเมื่อถึงสนามบินคันไซ หรือจะจองจากเว็ปไซต์ JR โดยตรงก็ได้เช่นกัน (JR คือบริษัทการรถไฟญี่ปุ่นที่ให้บริการรถไฟขบวนฮารุกะ)
เราได้ทำการจองบัตรโดยสารรถไฟผ่านเว็ปไซต์ของ JR ซึ่งเราจะต้องนำใบยืนยันการจองที่ได้มาไปยังเคาน์เตอร์ให้บริการในสนามบินคันไซเพื่อรับบัตรโดยสารตัวจริงเสียก่อน
นอกจากนี้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทาง JR West ได้ออกบัตร IC Card หรือบัตรเติมเงินอิเล็กทรอนิกส์ชนิดพิเศษโดยเฉพาะในชื่อ Kansai One pass ให้สำหรับนักท่องเที่ยวนำไปใช้ได้ โดยบัตรชนิดนี้มีคุณสมบัติเหมือนบัตร ICOCA ทุกประการแต่จะมีสิทธิพิเศษให้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ถือบัตรชนิดนี้เท่านั้นอีกด้วย
สถานที่แรกไม่ไกลจากสถานีเกียวโต คือ ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari) ศาลเจ้าสุนัขจิ้งจอกอันโด่งดัง มีไฮไลท์เป็นเสาโทริอิสีส้มทอดยาวจากตีนเขาไปยังยอดเขา การเดินทางให้นั่งรถไฟ JR สาย Nara Line ไปลงสถานีอินาริ(Inari)
สองข้างระหว่างเดินไปยังศาลเจ้าเต็มไปด้วยอาหารและขนมหวานมากมาย
อีกหนึ่งที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้ คือ สวนป่าไผ่แห่งเมืองอาราชิยามะ(Arashiyama Bamboo Groves) การเดินทางสามารถนั่งรถไฟ JR มาลงสถานี Arashiyama ได้เลย
สวมชุดฮากามะเดินเที่ยวเกียวโตถือเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ ที่หากมีโอกาสควรได้ลองดูสักครั้ง เพราะนอกจากชุดจะทำให้ได้ถ่ายรูปสวยๆมาอวดเพื่อนแล้ว เรายังได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นไปอีกขั้นหนึ่งเลยทีเดียวครับ
ครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหน โปรดติดตามตอนต่อไป รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เราเลือกที่จะมุ่งตรงไปยังเมืองหลวงเก่าเลื่องชื่ออย่างเกียวโต เมืองที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมนับไม่ถ้วนและถือเป็นเมืองที่มีมรดกโลกมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นถึง 17 แห่ง
เราเดินทางออกจากสนามบินนานาชาติดอนเมือง ไปยังสนามบินนานาชาติคันไซหรือ Kansai International Airport(KIX) ซึ่งเป็นสนามบินหลักของภูมิภาคนี้ ซึ่งหลังจากเราเดินทางเข้าสู่อาคารผู้สารก็จะพบกับป้ายต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน
เมื่อผ่านวิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว สิ่งแรกที่เราจะต้องทำคือการนำ Voucherหรือใบจองตั๋วรถไฟที่ได้ซื้อสำรองไว้ไปแลก ณ จุดจำหน่ายตามแต่ละบริษัท สำหรับการเดินทางไปยังต่อเกียวโตจากสนามบินนานาชาติคันไซ เราได้ทำการจองตั๋วรถไฟขบวน Haruka Express ซึ่งจะมุ่งตรงไปถึงเมืองเกียวโตโยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น
เราสามารถจองตั๋วไฟ Haruka Express ได้จากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยก่อนออกเดินทาง, จองจากตัวแทนจำหน่ายและเลือกรับบัตรโดยสารรถไฟเมื่อถึงสนามบินคันไซ หรือจะจองจากเว็ปไซต์ JR โดยตรงก็ได้เช่นกัน (JR คือบริษัทการรถไฟญี่ปุ่นที่ให้บริการรถไฟขบวนฮารุกะ)
เราได้ทำการจองบัตรโดยสารรถไฟผ่านเว็ปไซต์ของ JR ซึ่งเราจะต้องนำใบยืนยันการจองที่ได้มาไปยังเคาน์เตอร์ให้บริการในสนามบินคันไซเพื่อรับบัตรโดยสารตัวจริงเสียก่อน
นอกจากนี้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทาง JR West ได้ออกบัตร IC Card หรือบัตรเติมเงินอิเล็กทรอนิกส์ชนิดพิเศษโดยเฉพาะในชื่อ Kansai One pass ให้สำหรับนักท่องเที่ยวนำไปใช้ได้ โดยบัตรชนิดนี้มีคุณสมบัติเหมือนบัตร ICOCA ทุกประการแต่จะมีสิทธิพิเศษให้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ถือบัตรชนิดนี้เท่านั้นอีกด้วย
- เที่ยวเกียวโตครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งไหนเพราะเราจะสวมชุดฮากามะเดินเล่นตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วเกียวโตกันเลย
- ชุดฮากามะ สามารถสวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง มีลักษณะแตกต่างกันเล็กนิดน้อย โดยของผู้หญิงจะมีสัสีนสวยงามสะดุดตากว่า
- การสวมใส่ฮากามะค่อนข้างสะดวกต่อการเดินทางท่องเที่ยวเพราะส่วนล่างมีลักษณะคล้ายกางเกงขาบาน เดินง่ายกว่าชุดยูกาตะที่เป็นผ้าผืนเดียวกันทำให้เดินลำบาก นอกจากนี้เรายังสามารถประยุกต์นำรองเท้าหนังหรือบูทส์ ส่วมคู่กับฮากามะทำให้ดูดีและทันสมัยขึ้นอีกด้วย
- ร้านแนะนำสำหรับการเช่า คือ YUMEYAKATA ร้านอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Shijo (https://www.en-kyoto.yumeyakata.com)
สถานที่แรกไม่ไกลจากสถานีเกียวโต คือ ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari) ศาลเจ้าสุนัขจิ้งจอกอันโด่งดัง มีไฮไลท์เป็นเสาโทริอิสีส้มทอดยาวจากตีนเขาไปยังยอดเขา การเดินทางให้นั่งรถไฟ JR สาย Nara Line ไปลงสถานีอินาริ(Inari)
สองข้างระหว่างเดินไปยังศาลเจ้าเต็มไปด้วยอาหารและขนมหวานมากมาย
อีกหนึ่งที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้ คือ สวนป่าไผ่แห่งเมืองอาราชิยามะ(Arashiyama Bamboo Groves) การเดินทางสามารถนั่งรถไฟ JR มาลงสถานี Arashiyama ได้เลย
สวมชุดฮากามะเดินเที่ยวเกียวโตถือเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ ที่หากมีโอกาสควรได้ลองดูสักครั้ง เพราะนอกจากชุดจะทำให้ได้ถ่ายรูปสวยๆมาอวดเพื่อนแล้ว เรายังได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นไปอีกขั้นหนึ่งเลยทีเดียวครับ
ครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหน โปรดติดตามตอนต่อไป รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน