การออกเดินทางในครั้งนี้ เราอยากหลีกหนีความวุ่นวายของสังคมเมืองและผู้คนในโตเกียว ไปเที่ยวชมธรรมชาติของหุบเขามิตาเกะ (Mitake Valley) ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติมาก อยู่ห่างจากโตเกียวไปทางทิศตะวันตก ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง สามารถเที่ยวแบบไปเช้า – เย็นกลับจากโตเกียวได้อย่างสบาย ๆ
เริ่มออกเดินทางด้วยรถไฟ JR Chuo (สายสีส้ม) จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku) ไปที่สถานีโอเมะ (Ome) แล้วขึ้นรถไฟขบวนสีส้มจากสถานีโอเมะ (Ome) ไปลงที่สถานีมิตาเกะ (Mitake) เสียค่าโดยสารในการเดินทางประมาณ 920 เยน
ทิวทัศน์ของหุบเขามิตาเกะที่มองผ่านกระจกของรถไฟ ผืนป่าสีเขียวตัดกับสีของท้องฟ้าสวยงามมาก แล้วรถไฟก็มาจอดที่สถานีมิตาเกะ (Mitake)
จากหน้าสถานีจะมีจุดขึ้นรถบัสซึ่งอยู่เยื้องกับด้านหน้าสถานีมิตาเกะ สำหรับนั่งไปลงสถานีเคเบิ้ลคาร์เพื่อขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ด้านบนของหุบเขามิตาเกะได้
หุบเขามิตาเกะมีแพลนเที่ยวให้เลือกมากมาย เช่น เดินป่าชมธรรมชาติ ชมทิวทัศน์ของแม่น้ำทามะ ตกปลา แคมป์ปิ้งริมแม่น้ำ ปีนเขามิตาเกะ หรือนั่งเคเบิ้ลคาร์ไปชมวิวด้านบนเขามิตาเกะ เที่ยวชมศาลเจ้ามิตาเกะ แต่ด้วยเวลาเที่ยวที่มีจำกัด เราเลือกแพลนเดินเที่ยวชมทิวทัศน์ของแม่น้ำทามะ
เดินออกจากสถานีไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำทามะ มองเห็นจุดชมวิวลำธาร
เดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนถึงทางลงไปที่ริมลำธาร
สะพานไม้แขวนทอดยาวเชื่อมระหว่างหุบเขา
มองลงไปเห็นลำธาร
มาเที่ยวช่วงเดือนตุลาคม ต้นไม้ใบไม้ที่นี่ยังเขียวชะอุ่ม ไม่เปลี่ยนเป็นสีแดง
สายน้ำใสไหลผ่านหุบเขา ทิวทัศน์ของแม่น้ำทามะให้ความรู้สึกสดชื่น เย็นสบายและผ่อนคลายมาก ๆ เหมาะกับการนั่งพักผ่อน ปล่อยกายและใจให้ซึมซับกับบรรยากาศสบาย ๆ ที่อยู่ตรงหน้าให้นานเท่านาน
มิตาเกะมีที่พักค้างแรมทั้งแบบโรงแรมและแบบเรียวกัง ใครสนใจพักค้างคืนสามารถเลือกได้ตามสบาย
น้ำในลำธารสีเขียวอมฟ้าใสสะอาด ไหลเชี่ยวผ่านก้อนหินขนาดใหญ่และเล็กสลับกันไปมาสวยมาก
จากจุดชมวิวบนสะพาน มองเห็นคนนั่งแคมป์ปิ้งริมแม่น้ำ บางคนก็เล่นน้ำกันสนุกสนาน บางคนพายเรือแคนูผ่านกระแสน้ำใสไหลเชี่ยว ดูตื่นเต้นดี อยากลงไปเล่นน้ำด้วยจัง
เราเดินเที่ยว นั่งเล่นริมแม่น้ำทามะที่หุบเขามิตาเกะใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง ได้เวลาเดินทางกลับโตเกียวแล้ว แอบเสียดายที่ไม่มีเวลาเหลือพอที่จะไปขึ้นเคเบิ้ลคาร์ชมวิวทิวทัศน์ด้านบนของหุบเขามิตาเกะ เที่ยวชมไหว้ศาลเจ้ามิตาเกะ ไม่เป็นไรครั้งหน้าช่วงเดือนพฤศจิกายน ต้องมาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงให้ได้ ลาก่อนนะ มิตาเกะ
เริ่มออกเดินทางด้วยรถไฟ JR Chuo (สายสีส้ม) จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku) ไปที่สถานีโอเมะ (Ome) แล้วขึ้นรถไฟขบวนสีส้มจากสถานีโอเมะ (Ome) ไปลงที่สถานีมิตาเกะ (Mitake) เสียค่าโดยสารในการเดินทางประมาณ 920 เยน
ทิวทัศน์ของหุบเขามิตาเกะที่มองผ่านกระจกของรถไฟ ผืนป่าสีเขียวตัดกับสีของท้องฟ้าสวยงามมาก แล้วรถไฟก็มาจอดที่สถานีมิตาเกะ (Mitake)
จากหน้าสถานีจะมีจุดขึ้นรถบัสซึ่งอยู่เยื้องกับด้านหน้าสถานีมิตาเกะ สำหรับนั่งไปลงสถานีเคเบิ้ลคาร์เพื่อขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ด้านบนของหุบเขามิตาเกะได้
หุบเขามิตาเกะมีแพลนเที่ยวให้เลือกมากมาย เช่น เดินป่าชมธรรมชาติ ชมทิวทัศน์ของแม่น้ำทามะ ตกปลา แคมป์ปิ้งริมแม่น้ำ ปีนเขามิตาเกะ หรือนั่งเคเบิ้ลคาร์ไปชมวิวด้านบนเขามิตาเกะ เที่ยวชมศาลเจ้ามิตาเกะ แต่ด้วยเวลาเที่ยวที่มีจำกัด เราเลือกแพลนเดินเที่ยวชมทิวทัศน์ของแม่น้ำทามะ
เดินออกจากสถานีไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำทามะ มองเห็นจุดชมวิวลำธาร
เดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนถึงทางลงไปที่ริมลำธาร
สะพานไม้แขวนทอดยาวเชื่อมระหว่างหุบเขา
มองลงไปเห็นลำธาร
มาเที่ยวช่วงเดือนตุลาคม ต้นไม้ใบไม้ที่นี่ยังเขียวชะอุ่ม ไม่เปลี่ยนเป็นสีแดง
สายน้ำใสไหลผ่านหุบเขา ทิวทัศน์ของแม่น้ำทามะให้ความรู้สึกสดชื่น เย็นสบายและผ่อนคลายมาก ๆ เหมาะกับการนั่งพักผ่อน ปล่อยกายและใจให้ซึมซับกับบรรยากาศสบาย ๆ ที่อยู่ตรงหน้าให้นานเท่านาน
มิตาเกะมีที่พักค้างแรมทั้งแบบโรงแรมและแบบเรียวกัง ใครสนใจพักค้างคืนสามารถเลือกได้ตามสบาย
น้ำในลำธารสีเขียวอมฟ้าใสสะอาด ไหลเชี่ยวผ่านก้อนหินขนาดใหญ่และเล็กสลับกันไปมาสวยมาก
จากจุดชมวิวบนสะพาน มองเห็นคนนั่งแคมป์ปิ้งริมแม่น้ำ บางคนก็เล่นน้ำกันสนุกสนาน บางคนพายเรือแคนูผ่านกระแสน้ำใสไหลเชี่ยว ดูตื่นเต้นดี อยากลงไปเล่นน้ำด้วยจัง
เราเดินเที่ยว นั่งเล่นริมแม่น้ำทามะที่หุบเขามิตาเกะใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง ได้เวลาเดินทางกลับโตเกียวแล้ว แอบเสียดายที่ไม่มีเวลาเหลือพอที่จะไปขึ้นเคเบิ้ลคาร์ชมวิวทิวทัศน์ด้านบนของหุบเขามิตาเกะ เที่ยวชมไหว้ศาลเจ้ามิตาเกะ ไม่เป็นไรครั้งหน้าช่วงเดือนพฤศจิกายน ต้องมาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงให้ได้ ลาก่อนนะ มิตาเกะ