
“เดี๋ยวเดือนนี้ต้องไปมิยาซากินะ”
คำสั่งที่เหมือนดั่งคำประกาศิตจากนายหนนี้ ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง หรือสอบถามสรรพคุณใดๆ ให้มากความ เลิกงานกลับบ้านไปเตรียมตัวเก็บกระเป๋า แล้วก็ Let's go to มิยาซากิ สวรรค์น้อยๆ แห่งเกาะคิวชูกันเลยยย!!
ตอนที่ 1 : DAY 1 & 2 จาก Takachiho สู่ Nobeoka
ตอนที่ 2 : DAY 3 ชวนนั่งสมาธิ ล่องเรือ แล้วลุยต่อที่ Hyuga
ตอนที่ 3 : DAY 4 บ๊ายบาย...มิยาซากิ
---------------------------------
DAY 1 ออกเดินทาง
ทริปนี้ออกเดินทางไฟล์ท 8.30 น. โดยสายการบิน China Airlines ค่ะ ไปเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวันแล้วก็บินตรงไปยังสนามบินเมืองมิยาซากิเลย

ระหว่างทางมีอาหารบริการทั้งสองไฟล์ท ไม่ต้องกลัวหิวเลย กินอิ่มนอนหลับตลอดทาง

เวลาประมาณ 16.50 น. เครื่องก็ลงจอดที่สนามบินมิยาซากิโดยสวัสดิภาพ รับกระเป๋าเรียบร้อยก็ออกเดินทางขึ้นเหนือไปยังจุดหมายปลายทางแรกของเรานั่นก็คือเมือง Takachiho ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ ก็หลับกันไปยาวๆ 5555

ที่พักคืนนี้นอนกันแบบ Homestay เป็นบ้านคนญี่ปุ่นที่อยู่กลางหุบเขาที่เรียกว่า Takachiho Village นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาพักที่นี่จะเช่ารถขับมาเองหรือไม่ก็มาพร้อมกับกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งข้อดีของการพักแบบนี้ก็คือเราจะได้นั่งพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แล้วก็สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบคนญี่ปุ่นจริงๆ


ตอนไปถึงเจ้าของบ้านออกมาต้อนรับเราอย่างอบอุ่นมาก มีอาหารเย็นโฮมเมดอร่อยๆ เตรียมไว้ให้เรียบร้อย

ของหวานจานนี้เป็น มูสโซบะ ทำมาจากเส้นโซบะกับนม ดูแปลกๆ แต่อร่อยมากเลย เนื้อละมุน หอมนมฝุดๆ ทานคู่กับ ส้มยูซุเชื่อม

ระหว่างมื้อ กินไปพูดคุยไปรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็สนุกดีค่ะ รู้สึกเหมือนได้ครอบครัวเพิ่มอีกหนึ่งเลย (´⌣`ʃƪ)
ขออำลาวันแรกไปด้วยภาพห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่นน้าา คืนนี้หลับสบายแน่นอลลล Zzzzz

---------------------------------
DAY 2 จาก Takachiho สู่ Nobeoka
Takachiho George
เช้านี้เราเริ่มต้นทริปกันที่ Takachiho George สวรรค์น้อยๆ ของเมืองมิยาซากิ

กิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่คือการพายเรือชมน้ำตกและธรรมชาติสวยๆ ผ่านช่องเขาที่เกิดจากการกัดกร่อนของลาวาภูเขาไฟอะโสะเมื่อ 12,000 ปีก่อน เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงวันหยุดที่นี่คนจะเยอะมาก บางครั้งต้องรอคิวกันถึง 6 ชั่วโมงแหนะ!!




Takachiho George สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลย แต่ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูใบไม้ผลิจะสวยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะถ้ามองวิวลงมาจากด้านบน สวยงามจนเกินบรรยายจริงๆ



Takachiho Amaterasu Railway
เสร็จจากพายเรือแล้วก็มานั่งรถรางชมเมืองทากาจิโฮะกันต่อที่ Takachiho Amaterasu Railway


เดิมที่นี่เคยเป็นสถานีรถไฟเก่าค่ะ แต่เลิกใช้งานไปเพราะได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นเมื่อปี 2005 ตอนหลังก็เลยเอามาดัดแปลงเป็นรถรางเฉพาะสำหรับชมวิวทิวทัศน์รอบๆ เมือง


รถรางใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างทางก็จะมีเจ้าหน้าที่บรรยายเรื่อยๆ

พอถึงจุดชมวิวที่สูงที่สุด เจ้าหน้าที่ก็จะหยุดรถให้ถ่ายรูปกัน มีบริการพร็อบเป็นที่เป่าฟองสบู่ด้วยค่ะ ฟรุ้งฟริ้งไปอีก 5555


ถัดจากนั้นเราก็ไปเติมพลังกันด้วยเซ็ตเนื้อทากาจิโฮะ (เนื้อมิยาซากิ) ที่ร้าน Nikukoubou Hatsue เป็นเซ็ตมื้อกลางวันที่ให้ย่างเนื้อเองเลย จะมาคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่มก็เปิดเตาให้ค่ะ สบายใจได้

Takachiho Shrine
อิ่มแล้วจุดหมายต่อไปก็คือ ศาลเจ้าทากาจิโฮะ เป็นศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องการไหว้ขอพรต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความรัก


ที่นี่มีตำนานเกี่ยวกับต้นสนคู่รักด้วย เชื่อกันว่าถ้าได้จับมือกับคนรักแล้วเดินวนรอบต้นสนนี้สามครั้ง ชีวิตคู่ก็จะราบรื่นและมีแต่ความสุข

Banzeizan Daiunji
อีกประมาณ 1 ชั่วโมงถัดมา เราก็มาอยู่ที่เมือง Nobeoka สถานที่แรกที่เราจะไปก็คือวัด Banzeizan Daiunji หนึ่งในวัดหลักของพระพุทธศาสนาเซน นิกายโซโตะ
เรามาเรียนรู้การสานรองเท้าแบบสมัยก่อนที่นี่ค่ะ ใช้เวลาทำนานแล้วก็ยากพอสมควร แต่ว่าสนุกดีเหมือนกัน

ทำเสร็จก็มีของว่างมาเสิร์ฟ เป็นโมจินุ่มๆ ต้มกับถั่วแดงหวานๆ ทานแล้วอุ่นดี อาหย่อย~

Kasuga Shrine
เราไปขอพรกันอีกครั้งที่ Kusuga Shrine ศาลเจ้าที่อยู่บนภูเขาอาตาโกะ บรรยากาศร่มรื่น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ขอพรและเสี่ยงเซียมซีที่มีชื่อเสียงมากๆ


Mitaraisui Shrine
ขึ้นเขาไปอีกนิดก็จะพบกับ Mitaraisui Shrine ศาลเจ้าที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าเขาสีเขียวขจี มีทางเดินโทริอิไม้ที่เรียงยาวตลอดทางเดิน

ที่นี่เราจะได้ชม ระบำคาอุระ (Kaura) การแสดงพื้นเมืองที่บอกเล่าตำนานต่างๆ ผ่านนักแสดงที่สวมบทบาทเป็นเทพเจ้า

อ้อ! แล้วก็อย่าลืมดื่มสาเกในกระบอกไม้ไผ่ระหว่างชมการแสดงด้วยนะ เป็นการเพิ่มอรรถรสในการชมตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่นค่ะ
Atagoyama Observatory
สุดท้ายก่อนจบวัน เรามาต้อนรับดวงจันทร์กันที่ Atagoyama Observatory จุดชมวิวยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนภูเขาอาตาโกะ ด้วยความสูง 251 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นเมืองได้ทั้งเมืองเลยค่ะ



มีตำนานเล่าว่าที่นี่เป็นสถานที่แรกพบและแต่งงานของเทพเจ้านินิกิโนะมิโกโตะ หลานชายของเทพีอามะเทราสึ หรือเทพแห่งแสงสว่างและดวงอาทิตย์ ชาวญี่ปุ่นจึงเชื่อกันว่าถ้าได้มาคล้องกุญแจและขอพรเรื่องความรักที่นี่ก็จะสมหวัง



---------------------------------
จบหนึ่งวันไปแบบฟินๆ คราวหน้าจะพาไปล่องเรือกันแล้วววว
ติดตามการเดินทางตอนต่อไปของเราได้เลยที่ >> http://www.jgbthai.com/miyazaki-fam-trip-2/
คำสั่งที่เหมือนดั่งคำประกาศิตจากนายหนนี้ ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง หรือสอบถามสรรพคุณใดๆ ให้มากความ เลิกงานกลับบ้านไปเตรียมตัวเก็บกระเป๋า แล้วก็ Let's go to มิยาซากิ สวรรค์น้อยๆ แห่งเกาะคิวชูกันเลยยย!!
ตอนที่ 1 : DAY 1 & 2 จาก Takachiho สู่ Nobeoka
ตอนที่ 2 : DAY 3 ชวนนั่งสมาธิ ล่องเรือ แล้วลุยต่อที่ Hyuga
ตอนที่ 3 : DAY 4 บ๊ายบาย...มิยาซากิ
---------------------------------
DAY 1 ออกเดินทาง
ทริปนี้ออกเดินทางไฟล์ท 8.30 น. โดยสายการบิน China Airlines ค่ะ ไปเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวันแล้วก็บินตรงไปยังสนามบินเมืองมิยาซากิเลย

ระหว่างทางมีอาหารบริการทั้งสองไฟล์ท ไม่ต้องกลัวหิวเลย กินอิ่มนอนหลับตลอดทาง

เวลาประมาณ 16.50 น. เครื่องก็ลงจอดที่สนามบินมิยาซากิโดยสวัสดิภาพ รับกระเป๋าเรียบร้อยก็ออกเดินทางขึ้นเหนือไปยังจุดหมายปลายทางแรกของเรานั่นก็คือเมือง Takachiho ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ ก็หลับกันไปยาวๆ 5555

ที่พักคืนนี้นอนกันแบบ Homestay เป็นบ้านคนญี่ปุ่นที่อยู่กลางหุบเขาที่เรียกว่า Takachiho Village นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาพักที่นี่จะเช่ารถขับมาเองหรือไม่ก็มาพร้อมกับกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งข้อดีของการพักแบบนี้ก็คือเราจะได้นั่งพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แล้วก็สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบคนญี่ปุ่นจริงๆ


ตอนไปถึงเจ้าของบ้านออกมาต้อนรับเราอย่างอบอุ่นมาก มีอาหารเย็นโฮมเมดอร่อยๆ เตรียมไว้ให้เรียบร้อย

ของหวานจานนี้เป็น มูสโซบะ ทำมาจากเส้นโซบะกับนม ดูแปลกๆ แต่อร่อยมากเลย เนื้อละมุน หอมนมฝุดๆ ทานคู่กับ ส้มยูซุเชื่อม

ระหว่างมื้อ กินไปพูดคุยไปรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็สนุกดีค่ะ รู้สึกเหมือนได้ครอบครัวเพิ่มอีกหนึ่งเลย (´⌣`ʃƪ)
ขออำลาวันแรกไปด้วยภาพห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่นน้าา คืนนี้หลับสบายแน่นอลลล Zzzzz

---------------------------------
DAY 2 จาก Takachiho สู่ Nobeoka
Takachiho George
เช้านี้เราเริ่มต้นทริปกันที่ Takachiho George สวรรค์น้อยๆ ของเมืองมิยาซากิ

กิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่คือการพายเรือชมน้ำตกและธรรมชาติสวยๆ ผ่านช่องเขาที่เกิดจากการกัดกร่อนของลาวาภูเขาไฟอะโสะเมื่อ 12,000 ปีก่อน เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงวันหยุดที่นี่คนจะเยอะมาก บางครั้งต้องรอคิวกันถึง 6 ชั่วโมงแหนะ!!




Takachiho George สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลย แต่ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูใบไม้ผลิจะสวยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะถ้ามองวิวลงมาจากด้านบน สวยงามจนเกินบรรยายจริงๆ



Takachiho Amaterasu Railway
เสร็จจากพายเรือแล้วก็มานั่งรถรางชมเมืองทากาจิโฮะกันต่อที่ Takachiho Amaterasu Railway


เดิมที่นี่เคยเป็นสถานีรถไฟเก่าค่ะ แต่เลิกใช้งานไปเพราะได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นเมื่อปี 2005 ตอนหลังก็เลยเอามาดัดแปลงเป็นรถรางเฉพาะสำหรับชมวิวทิวทัศน์รอบๆ เมือง


รถรางใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างทางก็จะมีเจ้าหน้าที่บรรยายเรื่อยๆ

พอถึงจุดชมวิวที่สูงที่สุด เจ้าหน้าที่ก็จะหยุดรถให้ถ่ายรูปกัน มีบริการพร็อบเป็นที่เป่าฟองสบู่ด้วยค่ะ ฟรุ้งฟริ้งไปอีก 5555


ถัดจากนั้นเราก็ไปเติมพลังกันด้วยเซ็ตเนื้อทากาจิโฮะ (เนื้อมิยาซากิ) ที่ร้าน Nikukoubou Hatsue เป็นเซ็ตมื้อกลางวันที่ให้ย่างเนื้อเองเลย จะมาคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่มก็เปิดเตาให้ค่ะ สบายใจได้

Takachiho Shrine
อิ่มแล้วจุดหมายต่อไปก็คือ ศาลเจ้าทากาจิโฮะ เป็นศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องการไหว้ขอพรต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความรัก


ที่นี่มีตำนานเกี่ยวกับต้นสนคู่รักด้วย เชื่อกันว่าถ้าได้จับมือกับคนรักแล้วเดินวนรอบต้นสนนี้สามครั้ง ชีวิตคู่ก็จะราบรื่นและมีแต่ความสุข

Banzeizan Daiunji
อีกประมาณ 1 ชั่วโมงถัดมา เราก็มาอยู่ที่เมือง Nobeoka สถานที่แรกที่เราจะไปก็คือวัด Banzeizan Daiunji หนึ่งในวัดหลักของพระพุทธศาสนาเซน นิกายโซโตะ
เรามาเรียนรู้การสานรองเท้าแบบสมัยก่อนที่นี่ค่ะ ใช้เวลาทำนานแล้วก็ยากพอสมควร แต่ว่าสนุกดีเหมือนกัน

ทำเสร็จก็มีของว่างมาเสิร์ฟ เป็นโมจินุ่มๆ ต้มกับถั่วแดงหวานๆ ทานแล้วอุ่นดี อาหย่อย~

Kasuga Shrine
เราไปขอพรกันอีกครั้งที่ Kusuga Shrine ศาลเจ้าที่อยู่บนภูเขาอาตาโกะ บรรยากาศร่มรื่น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ขอพรและเสี่ยงเซียมซีที่มีชื่อเสียงมากๆ


Mitaraisui Shrine
ขึ้นเขาไปอีกนิดก็จะพบกับ Mitaraisui Shrine ศาลเจ้าที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าเขาสีเขียวขจี มีทางเดินโทริอิไม้ที่เรียงยาวตลอดทางเดิน

ที่นี่เราจะได้ชม ระบำคาอุระ (Kaura) การแสดงพื้นเมืองที่บอกเล่าตำนานต่างๆ ผ่านนักแสดงที่สวมบทบาทเป็นเทพเจ้า

อ้อ! แล้วก็อย่าลืมดื่มสาเกในกระบอกไม้ไผ่ระหว่างชมการแสดงด้วยนะ เป็นการเพิ่มอรรถรสในการชมตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่นค่ะ
Atagoyama Observatory
สุดท้ายก่อนจบวัน เรามาต้อนรับดวงจันทร์กันที่ Atagoyama Observatory จุดชมวิวยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนภูเขาอาตาโกะ ด้วยความสูง 251 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นเมืองได้ทั้งเมืองเลยค่ะ



มีตำนานเล่าว่าที่นี่เป็นสถานที่แรกพบและแต่งงานของเทพเจ้านินิกิโนะมิโกโตะ หลานชายของเทพีอามะเทราสึ หรือเทพแห่งแสงสว่างและดวงอาทิตย์ ชาวญี่ปุ่นจึงเชื่อกันว่าถ้าได้มาคล้องกุญแจและขอพรเรื่องความรักที่นี่ก็จะสมหวัง



---------------------------------
จบหนึ่งวันไปแบบฟินๆ คราวหน้าจะพาไปล่องเรือกันแล้วววว
ติดตามการเดินทางตอนต่อไปของเราได้เลยที่ >> http://www.jgbthai.com/miyazaki-fam-trip-2/