Choei Lavender farm หรือ Nakafurano Town Lavender field คือ ทุ่งลาเวนเดอร์พร้อมด้วยดอกไม้นานาชนิด บนเนินเขา Hokuseiyama สัญลักษณ์แห่งเมืองนะกะฟุราโนะ (Nakafurano)
ฟาร์มแห่งนี้ช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นจะเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ และมีจุดเด่นคือ การนั่งกระเช้า (Single-Chair Lift ) ขึ้นสู่ยอดเขา และในช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่นที่นี่จะกลายเป็นลานสกี Nakafurano Hokusei Ski Area ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในแผนที่บางทีจะใช้ชื่อว่า Town owned garden
ฟาร์มนี้อยู่ไม่ไกลจาก Tomita Farm แต่คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาไปอยู่ที่ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ซะส่วนใหญ่และไม่ค่อยได้มาสัมผัสฟาร์มนี้สักเท่าไหร่
Address : Miyamachi 1-41, Nakafurano-cho
Tel : 0167-44-3939 (Hokusei House) / 0167-39-3033 (Office)
Map Code : 349 276 031
ค่าเข้าชม : ฟรี
ค่าบริการกระเช้า : ผู้ใหญ่ 400 Yen (ไป - กลับ) / เด็ก 200 Yen
เวลาทำการ : Summer 09.00 น. - 18:00 น. (จุดขายตัวปิดเวลา 17.30 น. และกระเช้ารอบสุดท้ายคือเวล 17. 50 น.)
สามารถเข้าไปดูเวลาทำการเพิ่มเติมได้ที่ : https://nakafukanko.com/en/spot/spot-141
การเดินทาง :
ทริปนี้เราเดินทางโดยรถยนต์ ช่วงเดือนกรกฎาคมค่ะ ฟาร์มนี้มีที่จอดรถอยู่บริเวณด้านหน้าฟาร์มนะคะ เมื่อจอดรถแล้วก็เดินเข้ามากันเลยจ้า แวะถ่ายรูปบริเวณจุดถ่ายรูปกันหน่อย
เริ่มจากโซนด้านล่างเป็นดอกไม้หลายๆ ชนิด ไล่สีไปจนถึงด้านบนสุดคือสีม่วงจากลาเวนเดอร์
จุดเด่นของฟาร์มนี้ที่แตกต่างจากฟาร์มอื่น คือ การนั่ง chair- Lift ขึ้นสู่ยอดเขา ซื้อตั๋วแล้วไปลุยกันเลยค่ะ
นำตั๋วไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรงสถานีทางขึ้นได้เลยนะคะ แต่ต้องระวังหน่อยนะคะ เพราะกระเช้าที่เป็นเก้าอี้นั่ง ไม่ได้หยุดนิ่งๆให้เราขึ้นง่ายๆ นะคะ จะมีจุดให้เรายืนแล้วพนักงานจะช่วยเราให้เรานั่งค่ะ อย่าลังเลน๊า เพราะจะทำให้พนักงานเสียจังหวะ
ที่แนะนำว่าอย่าลังเลก็เพราะว่า เจ้ากระเช้าหรือเก้าอี้นั่งที่เราต้องนั่งขึ้นไปนั้นเป็นเก้าอี้ธรรมดาๆ ที่ไม่มีสายรัดใดๆ เลย เมื่อนั่งได้แล้วจับไว้แน่นๆ เลยนะคะ แอบเสียวอยู่เล็กน้อย แต่พอนั่งได้ที่ก็เพลินเชียวแหละ
ระหว่างที่นั่งๆ อยู่ก็แอบคิดว่าถ้าตกลงจากเก้าอี้จะทำยังไง คงได้กลิ้งลงเขาแน่ๆ
ไปเริ่มสัมผัสความตื่นเต้นกันเลย บอกเลยว่าลุ้นตั้งแต่ตอนพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ค่ะ
ระหว่างที่นั่งเราก็จะสวนทางกันกับกระเช้าที่ ขึ้น - ลง ค่ะ
เพียงแค่ประมาณ 7 นาทีก็ขึ้นมาถึงยอดเขาแล้วค่ะ วิวจากด้านบนค่ะ ทุ่งลาเวนเดอร์ที่นี่สวยไม่แพ้ฟาร์มใหญ่ๆ เลยน๊า
อีกอย่างนักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะด้วย ถ่ายรูปได้ตามสะดวก
สามารถมองเห็นวิวเมืองจากจุดนี้ได้ด้วยน๊า
ด้านหน้าฟาร์มมีลานจอดรถ และก็ร้านค้าเล็กๆ ค่ะ
เมื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศด้านบนจนพอใจแล้วก็เดินไปจุดนั่งกระเช้าเพื่อลงกันเลยค่ะ (ถ้าใครไม่นั่งกระเช้าสามารถเดินขึ้นลงเองได้นะคะ แต่อาจจะหมดแรงได้ ฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นร้อนพอสมควรนะคะ)
ระหว่างที่นั่งกระเช้าบอกเลยว่า อยากถ่ายรูปก็อยาก กลัวตกก็กลัว เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ
แวะร้านขายของฝากก่อนที่จะต้องโบกมือลาที่นี่ มีร้านขายอาหารเล็กๆ ด้วยนะคะ เราเลยฝากท้องที่นี่เลย จะได้ไม่ต้องไปหาร้านอาหารที่อื่น ตารางเที่ยวเราค่อนข้างแน่นค่ะ
แนะนำเลยว่าถ้ามีโอกาสควรมาแวะ Choei Lavender farm ด้วยนะคะ ตอนเรามามัวแต่ใช้เวลาอยู่ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ซะนานเลย แบ่งเวลามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่นี่บ้างเนอะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
ฟาร์มแห่งนี้ช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นจะเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ และมีจุดเด่นคือ การนั่งกระเช้า (Single-Chair Lift ) ขึ้นสู่ยอดเขา และในช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่นที่นี่จะกลายเป็นลานสกี Nakafurano Hokusei Ski Area ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในแผนที่บางทีจะใช้ชื่อว่า Town owned garden
ฟาร์มนี้อยู่ไม่ไกลจาก Tomita Farm แต่คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาไปอยู่ที่ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ซะส่วนใหญ่และไม่ค่อยได้มาสัมผัสฟาร์มนี้สักเท่าไหร่
Address : Miyamachi 1-41, Nakafurano-cho
Tel : 0167-44-3939 (Hokusei House) / 0167-39-3033 (Office)
Map Code : 349 276 031
ค่าเข้าชม : ฟรี
ค่าบริการกระเช้า : ผู้ใหญ่ 400 Yen (ไป - กลับ) / เด็ก 200 Yen
เวลาทำการ : Summer 09.00 น. - 18:00 น. (จุดขายตัวปิดเวลา 17.30 น. และกระเช้ารอบสุดท้ายคือเวล 17. 50 น.)
สามารถเข้าไปดูเวลาทำการเพิ่มเติมได้ที่ : https://nakafukanko.com/en/spot/spot-141
การเดินทาง :
- จาก JR Furano ไปลงสถานี JR Naka-Furano เดินต่อประมาณ 15 นาที
- โดยรถยนต์ จากฟาร์มโทมิตะ(Farm Tomita) ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
ทริปนี้เราเดินทางโดยรถยนต์ ช่วงเดือนกรกฎาคมค่ะ ฟาร์มนี้มีที่จอดรถอยู่บริเวณด้านหน้าฟาร์มนะคะ เมื่อจอดรถแล้วก็เดินเข้ามากันเลยจ้า แวะถ่ายรูปบริเวณจุดถ่ายรูปกันหน่อย
เริ่มจากโซนด้านล่างเป็นดอกไม้หลายๆ ชนิด ไล่สีไปจนถึงด้านบนสุดคือสีม่วงจากลาเวนเดอร์
จุดเด่นของฟาร์มนี้ที่แตกต่างจากฟาร์มอื่น คือ การนั่ง chair- Lift ขึ้นสู่ยอดเขา ซื้อตั๋วแล้วไปลุยกันเลยค่ะ
นำตั๋วไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรงสถานีทางขึ้นได้เลยนะคะ แต่ต้องระวังหน่อยนะคะ เพราะกระเช้าที่เป็นเก้าอี้นั่ง ไม่ได้หยุดนิ่งๆให้เราขึ้นง่ายๆ นะคะ จะมีจุดให้เรายืนแล้วพนักงานจะช่วยเราให้เรานั่งค่ะ อย่าลังเลน๊า เพราะจะทำให้พนักงานเสียจังหวะ
ที่แนะนำว่าอย่าลังเลก็เพราะว่า เจ้ากระเช้าหรือเก้าอี้นั่งที่เราต้องนั่งขึ้นไปนั้นเป็นเก้าอี้ธรรมดาๆ ที่ไม่มีสายรัดใดๆ เลย เมื่อนั่งได้แล้วจับไว้แน่นๆ เลยนะคะ แอบเสียวอยู่เล็กน้อย แต่พอนั่งได้ที่ก็เพลินเชียวแหละ
ระหว่างที่นั่งๆ อยู่ก็แอบคิดว่าถ้าตกลงจากเก้าอี้จะทำยังไง คงได้กลิ้งลงเขาแน่ๆ
ไปเริ่มสัมผัสความตื่นเต้นกันเลย บอกเลยว่าลุ้นตั้งแต่ตอนพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ค่ะ
ระหว่างที่นั่งเราก็จะสวนทางกันกับกระเช้าที่ ขึ้น - ลง ค่ะ
เพียงแค่ประมาณ 7 นาทีก็ขึ้นมาถึงยอดเขาแล้วค่ะ วิวจากด้านบนค่ะ ทุ่งลาเวนเดอร์ที่นี่สวยไม่แพ้ฟาร์มใหญ่ๆ เลยน๊า
อีกอย่างนักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะด้วย ถ่ายรูปได้ตามสะดวก
สามารถมองเห็นวิวเมืองจากจุดนี้ได้ด้วยน๊า
ด้านหน้าฟาร์มมีลานจอดรถ และก็ร้านค้าเล็กๆ ค่ะ
เมื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศด้านบนจนพอใจแล้วก็เดินไปจุดนั่งกระเช้าเพื่อลงกันเลยค่ะ (ถ้าใครไม่นั่งกระเช้าสามารถเดินขึ้นลงเองได้นะคะ แต่อาจจะหมดแรงได้ ฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นร้อนพอสมควรนะคะ)
ระหว่างที่นั่งกระเช้าบอกเลยว่า อยากถ่ายรูปก็อยาก กลัวตกก็กลัว เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ
แวะร้านขายของฝากก่อนที่จะต้องโบกมือลาที่นี่ มีร้านขายอาหารเล็กๆ ด้วยนะคะ เราเลยฝากท้องที่นี่เลย จะได้ไม่ต้องไปหาร้านอาหารที่อื่น ตารางเที่ยวเราค่อนข้างแน่นค่ะ
แนะนำเลยว่าถ้ามีโอกาสควรมาแวะ Choei Lavender farm ด้วยนะคะ ตอนเรามามัวแต่ใช้เวลาอยู่ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ซะนานเลย แบ่งเวลามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่นี่บ้างเนอะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ