สำหรับ Nifrel Aquazoo เป็นสถานที่ที่เราอยากแนะนำมากเลยค่ะ เพราะเราคิดว่าเหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย มีอะไรให้เราได้สัมผัส และค้นหาเยอะมาก สำหรับน้องๆ ก็ทำให้เห็นอะไรที่แปลกตา และได้ประสบการณ์กลับไปอย่างคุ้มค่าแน่นอน ที่นี่จะตั้งอยู่ภายในอาคาร Expo City การันตีความสนุกและน่าสนใจด้วยการคว้าอันดับ 1 จาก TripAdvisor ให้เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอันดับ 1 ในเอเชีย และเป็นสวนสัตว์แนวใหม่ที่ไม่ได้จัดแสดงสัตว์น้ำแบบทั่วๆ ไปแต่เป็นการนำเสนอด้วยรูปแบบเทคโนโลยี Interactive สุดล้ำสมัย แบ่งเป็น 2 ชั้นที่ทำการจัดแสดง จัดเต็มด้วยการนำเสนอสัตว์น้ำในรูปแบบใหม่ๆ ที่นำเอาแสง สี เสียงมาประกอบอย่างลงตัว แถมยังสามารถสัมผัสเหล่าสัตว์ได้แบบระยะประชิด
ก่อนอื่นสำหรับการเดินทาง ที่นี่จะไกลจากตัวเมืองนิดนึงค่ะ ต้องนั่งใต้ดินมาลงที่สถานี Senri Chuo แล้วเปลี่ยนมานั่งโมโนเรล มาลงที่สถานี Bampakukinenkoen ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงได้
ค่าเข้าสำหรับที่นี่
- ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป) ราคา 2,000 เยน
- นักเรียนชั้นประถมศึกษา / มัธยมศึกษาตอนต้น ราคา 1,000 เยน
- เด็กก่อนวัยเรียน (อายุ 3 ปีขึ้นไป) ราคา 600 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 - 20:00 น. สามารถเข้าได้จนถึงเวลา 19:00 น. (เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
เมื่อเข้ามาแล้วก็จะเห็นแสงสีแบบจัดเต็มเลยค่ะ โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็น 11 โซน
โซน Colors : โซนนี้จะเน้นด้านสีสัน ซึ่งจะมีการจัดแสดงสัตว์น้ำหลากสีสดใส สวยงามมากๆ ซึ่งจะทำให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของสีที่สวยงามไม่ว่าจะจากปลา ทากทะเล หรือประการัง ทุกสิ่งที่อยู่ในตู้สีสวยมากๆ เลยค่ะ
โซน Abilities : โซนนี้จะจัดแสดงในสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ทำให้เหมือนว่าสัตว์แต่ละชนิดสามารถทำอะไรได้บ้าง มีความสามารถพิเศษอะไรน่าสนใจ อย่างการเปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อม การพ่นน้ำเพื่อจับเหยื่อ โดยตู้ปลาจะออกแบบมาให้เราได้ชมอย่างใกล้ชิดมากที่สุดแบบที่ไม่เคยได้จากที่ไหน ที่นี่มีให้จุ่มมือแล้วปลามาตอดนิ้วเหมือนบ้านเราด้วย
โซน Shapes : จะแสดงให้เห็นถึงความลึกลับของรูปทรงสัตว์น้ำต่างๆที่บางตัวหาดูได้ยากมากๆ มีการจัดเอาองค์ประกอบของศิลปะมาปรับใช้ทำให้ดูไม่น่าเบื่อ มีการใช้แสงขับเน้นสรีระของสัตว์ทำให้ดูแล้วเป็นมากกว่าที่เห็นทั่วๆไป เราชอบโซนนี้มากเลยค่ะ และ โซนนี้สำหรับเราก็ถ่ายรูปออกมายากเช่นกัน ทำให้ได้รูปน้อยมาก ส่วนใหญ่จะใช้แต่ตาดูอย่างเดียวเลย เราชอบตรงแมงกระพรุนสีๆ แต่ถ่ายออกมาเบลอทุกรูปเลย
โซน Wonder Moments : โซนนี้ถูกออกแบบโดยศิลปินชื่อดังอย่าง Takahiro Mutsu ซึ่งนำเสนอในรูปแบบให้เราอยู่ในจักรวาลแล้วมองเห็นทั้งโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น รวมไปถึงธรรมชาติอันงดงามของดาวโลกอย่างทุ่งดอกไม้สีสันสดใสและต้นไม้ที่นำเสนอผ่านแสง สี เสียงได้อย่างน่าประทับใจเป็นที่สุด โดยจะแสดงรอบละ 10 นาทีหมุนวนไปเรื่อยๆ โปรแกรม : WATER / Sense of Nature / UNIVERSE
โซน MIMIC : โซนนี้เราจะเห็นสิ่งมีชีวิตที่มีพฤติกรรม “ เลียนแบบ” เพื่อความอยู่รอดในธรรมชาติ ทำให้ตัวเองดูกลมกลืนเหมือนสภาพแวดล้อมหรือพื้นหลังที่พวกเขาอาศัยอยู่ สามารถเข้าหาเหยื่อได้โดยไม่ต้องสังเกตหรือป้องกันตัวเองจากผู้ล่า
โซน Waterside : โซนนี้จะเป็นโซนที่รวบรวมเอาสัตว์หายากหลากหลายสายพันธ์มาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเสือขาว สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ฮิปโปแคระ รวมไปถึงจระเข้ตัวโตมาก แต่ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่เสือขาวหลับเลยมองไม่เห็นเลย ส่วนฮิปโปก็ซนมาก ไม่อยู่นิ่งเลย สิ่งที่นิ่งสุดก็จระเข้นี่แหละ คือตัวใหญ่แบบใหญ่มาก เราจะได้เห็นทุกสัดส่วน ยันเนื้อผิวของจระเข้เลยค่ะ
โซน Picnic Café EAT EAT EAT : โซนนี้เราแค่เดินผ่านเฉยๆ เพราะเขาจะขายพวกของกิน แซนวิช แฮมเบอร์เกอร์ ของหวาน ขนม ไอติม น้ำต่างๆ ประมาณนั้นค่ะ
โซน Behavior : โซนนี้ต้องบอกว่าเป็นโซนที่เราชอบมาก แบบมากๆ เลยค่ะ อยู่เป็นชั่วโมงเลย เพราะเป็นโซนที่เราเข้าใกล้สัตว์ได้มากที่สุด ชนิดที่บินเฉี่ยวหัว โฉบขากันเลยทีเดียว ไฮไลท์ที่นี่คือเหล่าเพนกวินแอฟริกาที่จะกระโดดน้ำ เดินเตาะแตะ นอนแผ่หราให้ได้เห็นถึงความน่ารักกันแบบจะๆ สัตว์ในห้องนี้คือจะปล่อยให้ไปไหนมาไหนแบบอิสระไม่ต้องถูกจำกัดด้วยกรง อย่างนกฮูกที่ชอบเกาะอยู่บริเวณป้ายห้องน้ำนี่ก็บินโฉบหัวเราบ่อยมาก แถมได้เห็นคาปิกาแบบใกล้มากๆ ลีเมอร์ก็ซนได้อีก ถ้าเรานั่งอยู่เฉยๆ บางทีก็จะเข้ามาใกล้ๆ เรา แล้วปีนมาใกล้ๆ เลยค่ะ
โซน Biodiversity : โซนนี้จะเป็นโซนที่เปิดให้ชมภาพ 3 มิติแบบไดนามิกประหนึ่งนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งก็จะฉายเป็นธีมต่างๆ แตกต่างกันตามแต่ละช่วง อันนี้เรานั่งดูอยู่แปปเดียว ไม่ค่อยมีอะไร
โซน NIFREL MAKES : โซนนี้จะเป็นโซนพื้นที่อินเทอร์แอคทีฟสำหรับกิจกรรมเชิงปฏิบัติที่ NIFREL จะมีพวกกิจกรรม การฝึกอบรมตามเทศกาล ซึ่งผู้เข้าร่วมสามารถรู้สึกใกล้ชิดกับสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติ ตอนที่เราไปส่วนใหญ่จะเห็นเด็กๆ นั่งระบายสีกัน
หลังจากจบทุกโซน ก่อนออกจะมีให้ทำแบบสอบถามด้วย แต่จะเป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ เราทำแล้วเอาไปส่งได้เป็นจี้รูปน้องฮิปโปมาค่ะ
และแน่นอนว่าสาวกเพนกวินแบบเราในโซนของกิ๊ฟช้อปก็ไม่มีทางรอดค่ะ น่ารักมากก มีเป็นเพนกวิ้นใส่ชุดฮิปโปกับเสือขาว โดยส่วนตัวเราชอบลายเส้นเพนกวิ้นของนักวาดคนนี้อยู่ด้วย เลยซื้อมาแบบไม่คิดไรเลย มีกาชาปองให้หยอดด้วยนะคะ หมดตัวกันเลยทีเดียว
สรุปแล้ว สำหรับที่นี่เราแนะนำจริงๆนะคะ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หรือวัยรุ่น ก็อยากให้ลองมาดูค่ะ เพราะสนุกมากๆ ประสบการณ์ที่ได้กลับไป คุ้มค่าแน่นอนค่ะ
บันทึกประสบการณ์ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2019
ก่อนอื่นสำหรับการเดินทาง ที่นี่จะไกลจากตัวเมืองนิดนึงค่ะ ต้องนั่งใต้ดินมาลงที่สถานี Senri Chuo แล้วเปลี่ยนมานั่งโมโนเรล มาลงที่สถานี Bampakukinenkoen ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงได้
ค่าเข้าสำหรับที่นี่
- ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป) ราคา 2,000 เยน
- นักเรียนชั้นประถมศึกษา / มัธยมศึกษาตอนต้น ราคา 1,000 เยน
- เด็กก่อนวัยเรียน (อายุ 3 ปีขึ้นไป) ราคา 600 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 - 20:00 น. สามารถเข้าได้จนถึงเวลา 19:00 น. (เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
เมื่อเข้ามาแล้วก็จะเห็นแสงสีแบบจัดเต็มเลยค่ะ โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็น 11 โซน
โซน Colors : โซนนี้จะเน้นด้านสีสัน ซึ่งจะมีการจัดแสดงสัตว์น้ำหลากสีสดใส สวยงามมากๆ ซึ่งจะทำให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของสีที่สวยงามไม่ว่าจะจากปลา ทากทะเล หรือประการัง ทุกสิ่งที่อยู่ในตู้สีสวยมากๆ เลยค่ะ
โซน Abilities : โซนนี้จะจัดแสดงในสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ทำให้เหมือนว่าสัตว์แต่ละชนิดสามารถทำอะไรได้บ้าง มีความสามารถพิเศษอะไรน่าสนใจ อย่างการเปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อม การพ่นน้ำเพื่อจับเหยื่อ โดยตู้ปลาจะออกแบบมาให้เราได้ชมอย่างใกล้ชิดมากที่สุดแบบที่ไม่เคยได้จากที่ไหน ที่นี่มีให้จุ่มมือแล้วปลามาตอดนิ้วเหมือนบ้านเราด้วย
โซน Shapes : จะแสดงให้เห็นถึงความลึกลับของรูปทรงสัตว์น้ำต่างๆที่บางตัวหาดูได้ยากมากๆ มีการจัดเอาองค์ประกอบของศิลปะมาปรับใช้ทำให้ดูไม่น่าเบื่อ มีการใช้แสงขับเน้นสรีระของสัตว์ทำให้ดูแล้วเป็นมากกว่าที่เห็นทั่วๆไป เราชอบโซนนี้มากเลยค่ะ และ โซนนี้สำหรับเราก็ถ่ายรูปออกมายากเช่นกัน ทำให้ได้รูปน้อยมาก ส่วนใหญ่จะใช้แต่ตาดูอย่างเดียวเลย เราชอบตรงแมงกระพรุนสีๆ แต่ถ่ายออกมาเบลอทุกรูปเลย
โซน Wonder Moments : โซนนี้ถูกออกแบบโดยศิลปินชื่อดังอย่าง Takahiro Mutsu ซึ่งนำเสนอในรูปแบบให้เราอยู่ในจักรวาลแล้วมองเห็นทั้งโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น รวมไปถึงธรรมชาติอันงดงามของดาวโลกอย่างทุ่งดอกไม้สีสันสดใสและต้นไม้ที่นำเสนอผ่านแสง สี เสียงได้อย่างน่าประทับใจเป็นที่สุด โดยจะแสดงรอบละ 10 นาทีหมุนวนไปเรื่อยๆ โปรแกรม : WATER / Sense of Nature / UNIVERSE
โซน MIMIC : โซนนี้เราจะเห็นสิ่งมีชีวิตที่มีพฤติกรรม “ เลียนแบบ” เพื่อความอยู่รอดในธรรมชาติ ทำให้ตัวเองดูกลมกลืนเหมือนสภาพแวดล้อมหรือพื้นหลังที่พวกเขาอาศัยอยู่ สามารถเข้าหาเหยื่อได้โดยไม่ต้องสังเกตหรือป้องกันตัวเองจากผู้ล่า
โซน Waterside : โซนนี้จะเป็นโซนที่รวบรวมเอาสัตว์หายากหลากหลายสายพันธ์มาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเสือขาว สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ฮิปโปแคระ รวมไปถึงจระเข้ตัวโตมาก แต่ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่เสือขาวหลับเลยมองไม่เห็นเลย ส่วนฮิปโปก็ซนมาก ไม่อยู่นิ่งเลย สิ่งที่นิ่งสุดก็จระเข้นี่แหละ คือตัวใหญ่แบบใหญ่มาก เราจะได้เห็นทุกสัดส่วน ยันเนื้อผิวของจระเข้เลยค่ะ
โซน Picnic Café EAT EAT EAT : โซนนี้เราแค่เดินผ่านเฉยๆ เพราะเขาจะขายพวกของกิน แซนวิช แฮมเบอร์เกอร์ ของหวาน ขนม ไอติม น้ำต่างๆ ประมาณนั้นค่ะ
โซน Behavior : โซนนี้ต้องบอกว่าเป็นโซนที่เราชอบมาก แบบมากๆ เลยค่ะ อยู่เป็นชั่วโมงเลย เพราะเป็นโซนที่เราเข้าใกล้สัตว์ได้มากที่สุด ชนิดที่บินเฉี่ยวหัว โฉบขากันเลยทีเดียว ไฮไลท์ที่นี่คือเหล่าเพนกวินแอฟริกาที่จะกระโดดน้ำ เดินเตาะแตะ นอนแผ่หราให้ได้เห็นถึงความน่ารักกันแบบจะๆ สัตว์ในห้องนี้คือจะปล่อยให้ไปไหนมาไหนแบบอิสระไม่ต้องถูกจำกัดด้วยกรง อย่างนกฮูกที่ชอบเกาะอยู่บริเวณป้ายห้องน้ำนี่ก็บินโฉบหัวเราบ่อยมาก แถมได้เห็นคาปิกาแบบใกล้มากๆ ลีเมอร์ก็ซนได้อีก ถ้าเรานั่งอยู่เฉยๆ บางทีก็จะเข้ามาใกล้ๆ เรา แล้วปีนมาใกล้ๆ เลยค่ะ
โซน Biodiversity : โซนนี้จะเป็นโซนที่เปิดให้ชมภาพ 3 มิติแบบไดนามิกประหนึ่งนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งก็จะฉายเป็นธีมต่างๆ แตกต่างกันตามแต่ละช่วง อันนี้เรานั่งดูอยู่แปปเดียว ไม่ค่อยมีอะไร
โซน NIFREL MAKES : โซนนี้จะเป็นโซนพื้นที่อินเทอร์แอคทีฟสำหรับกิจกรรมเชิงปฏิบัติที่ NIFREL จะมีพวกกิจกรรม การฝึกอบรมตามเทศกาล ซึ่งผู้เข้าร่วมสามารถรู้สึกใกล้ชิดกับสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติ ตอนที่เราไปส่วนใหญ่จะเห็นเด็กๆ นั่งระบายสีกัน
หลังจากจบทุกโซน ก่อนออกจะมีให้ทำแบบสอบถามด้วย แต่จะเป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ เราทำแล้วเอาไปส่งได้เป็นจี้รูปน้องฮิปโปมาค่ะ
และแน่นอนว่าสาวกเพนกวินแบบเราในโซนของกิ๊ฟช้อปก็ไม่มีทางรอดค่ะ น่ารักมากก มีเป็นเพนกวิ้นใส่ชุดฮิปโปกับเสือขาว โดยส่วนตัวเราชอบลายเส้นเพนกวิ้นของนักวาดคนนี้อยู่ด้วย เลยซื้อมาแบบไม่คิดไรเลย มีกาชาปองให้หยอดด้วยนะคะ หมดตัวกันเลยทีเดียว
สรุปแล้ว สำหรับที่นี่เราแนะนำจริงๆนะคะ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หรือวัยรุ่น ก็อยากให้ลองมาดูค่ะ เพราะสนุกมากๆ ประสบการณ์ที่ได้กลับไป คุ้มค่าแน่นอนค่ะ
บันทึกประสบการณ์ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2019