เรามาเที่ยวโอซาก้าคนเดียวช่วงปีใหม่มาแบบด่วนจี้ ได้ตั๋วถูกไปกับเก้าพันกว่าบาท จอง 30 บิน คืน 31 ธันวาคม 2018 Countdown กันบนเครื่องบินเลยทีเดียว เราถึงสนามบินคันไซตอนเช้า อาบน้ำที่เลาน์ที่สนามบิน แล้วเริ่มเดินทางกันเลย...........................................
วันที่ 2 ----ปราสาทโอซาก้า – Osaka Castle
ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญเป็นแลนด์มาร์คของโอซาก้าที่ใครๆก็ต้องมาเยือน ทั้งความยิ่งใหญ่ ความสวยงาม ตลอดสองข้างทาง เราจึงเลือกที่จะมาในวันที่สอง ไม่มีพลาดแน่นอน เราเดินทางมาโดยรถไฟใต้ดินจากสถานีนัมบะ เดินทางโดยใช้ Google ตลอดทริป ดีนะไม่หลงเลยยกเว้นตอนหาโรงแรมวันแรก 5555 ใช้เวลา 1 ชม.เต็มๆ จากนัมบะลงสถานี tanimachi แล้วเดินออกมาก็จะเจอแบบนี้เลยสวยมาก ขนาดไกลๆ เรามาช่วงปีใหม่ อากาศกำลังดีไม่ร้อนไม่หนาวมาก เดินทั้งวันสบายๆ ช่วงปีใหม่คนเยอะทุกทีที่ไปถ่ายรูปยากนิดนึงก็ต้องทำใจ เดินเข้าไปเรื่อยๆ ยิ่งเห็นความยิ่งใหญ่และความสวยของปราสาท ระหว่างทางเดินเต็มไปด้วยต้นซากุระ ถ้ามาช่วงซากุระบานคงสวยไม่เบา
เดินมาเรื่อยตามทางถึงหน้าปราสาทใช้เวลานานเหมือนกันและคนก็เยอะมาก คนต่อคิวขึ้นปราสาทยาวมากเรามาถึงสายไปนิด ถ้าใครจะมาแนะนำให้มาเช้าๆ เราก็อยากขึ้นไปดูข้างบนว่ามันเป็นยังไงเห็นเค้าว่าเห็นวิวทั้งเมือง เราเดินไปซื้อตั๋วเครื่องอัตโนมัติราคา 600 เยน ซึ่งก็ซื้อไม่ยากเลย ได้ตํ่วแล้วก็เข้าคิวขึ้นปราสาทคิวยาวมากแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วรอก็รอ ประมาณครึ่งชม.ก็ได้ขึ้นไปชมวิวข้างบน สังเกตว่านักท่องเที่ยววันนี้มีทั้งคนไทย จีน ฝรั่ง หนักไปทางจีน แต่คนไทยก็เยอะนะดูจากหน้า 555
ทางขึ้นปราสาท
ทางขึ้นมีให้เลือก 2 แบบ บันไดกับลิฟท์ แต่ลิฟท์รอนานมากเราเลยเดินขึ้นบันไดชั้นๆสูงๆกว่าจะถึงชั้น 8 ขาสั่นที่เดียวตอนลง วิวข้างบน เห็นรอบๆเมืองเลย แต่คนเป็นหลอนเลยจ้า มีร้านขายของที่ระลึกข้างบนด้วย เราได้มาเป็นปราสาทเล็กๆสีทองน่ารักดี
คนเยอะมากจริงๆกว่าจะเดินรอบ เบียดกันสุดฤทธิ์ เสร็จแล้วก็เดินลงมาถ่ายรูปข้างล่างรอบต่อ สวยมากเลยถ่ายไปได้ตลอดสองข้างทาง มีการแสดงพื้นเมือง มีคนมาเดินเล่น พาหมามาเดินเล่น หมาแต่งตัวจัดเต็มมาก เพราะอากาศก็เย็นเอาเรื่องเหมือนกัน ต้องมานะใครมาโอซาก้าห้ามพลาดเลย
แล้วก็กลับไปสถานีรถไฟนั่งรถไฟไปที่ วัดชินเทนโนจิต่อ เนื่องจากเวลาเรามีน้อยเลยต้องเลือกแต่ที่ที่อยากไปจริงๆ เดี่ยวว่างๆค่อยมาเก็บต่อที่เหลือ ข้อเสียของการมาเที่ยวช่วงปีใหม่คนเยอะทุกที ถ่ายรูปยาก รอคิวนาน แต่ข้อดีที่นี้เข้าคิวทุกทีไม่มีแซงคิวไม่ต้องบอกกันให้เมื่อยปาก
สุดท้ายขอฝากภาพสวยๆ กับทริปครั้งนี้ไว้เท่านี้ก่อน เเล้วครั้งหน้ามาติดตามกันนะคะว่าจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ
วันที่ 2 ----ปราสาทโอซาก้า – Osaka Castle
ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญเป็นแลนด์มาร์คของโอซาก้าที่ใครๆก็ต้องมาเยือน ทั้งความยิ่งใหญ่ ความสวยงาม ตลอดสองข้างทาง เราจึงเลือกที่จะมาในวันที่สอง ไม่มีพลาดแน่นอน เราเดินทางมาโดยรถไฟใต้ดินจากสถานีนัมบะ เดินทางโดยใช้ Google ตลอดทริป ดีนะไม่หลงเลยยกเว้นตอนหาโรงแรมวันแรก 5555 ใช้เวลา 1 ชม.เต็มๆ จากนัมบะลงสถานี tanimachi แล้วเดินออกมาก็จะเจอแบบนี้เลยสวยมาก ขนาดไกลๆ เรามาช่วงปีใหม่ อากาศกำลังดีไม่ร้อนไม่หนาวมาก เดินทั้งวันสบายๆ ช่วงปีใหม่คนเยอะทุกทีที่ไปถ่ายรูปยากนิดนึงก็ต้องทำใจ เดินเข้าไปเรื่อยๆ ยิ่งเห็นความยิ่งใหญ่และความสวยของปราสาท ระหว่างทางเดินเต็มไปด้วยต้นซากุระ ถ้ามาช่วงซากุระบานคงสวยไม่เบา
เดินมาเรื่อยตามทางถึงหน้าปราสาทใช้เวลานานเหมือนกันและคนก็เยอะมาก คนต่อคิวขึ้นปราสาทยาวมากเรามาถึงสายไปนิด ถ้าใครจะมาแนะนำให้มาเช้าๆ เราก็อยากขึ้นไปดูข้างบนว่ามันเป็นยังไงเห็นเค้าว่าเห็นวิวทั้งเมือง เราเดินไปซื้อตั๋วเครื่องอัตโนมัติราคา 600 เยน ซึ่งก็ซื้อไม่ยากเลย ได้ตํ่วแล้วก็เข้าคิวขึ้นปราสาทคิวยาวมากแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วรอก็รอ ประมาณครึ่งชม.ก็ได้ขึ้นไปชมวิวข้างบน สังเกตว่านักท่องเที่ยววันนี้มีทั้งคนไทย จีน ฝรั่ง หนักไปทางจีน แต่คนไทยก็เยอะนะดูจากหน้า 555
ทางขึ้นปราสาท
ทางขึ้นมีให้เลือก 2 แบบ บันไดกับลิฟท์ แต่ลิฟท์รอนานมากเราเลยเดินขึ้นบันไดชั้นๆสูงๆกว่าจะถึงชั้น 8 ขาสั่นที่เดียวตอนลง วิวข้างบน เห็นรอบๆเมืองเลย แต่คนเป็นหลอนเลยจ้า มีร้านขายของที่ระลึกข้างบนด้วย เราได้มาเป็นปราสาทเล็กๆสีทองน่ารักดี
คนเยอะมากจริงๆกว่าจะเดินรอบ เบียดกันสุดฤทธิ์ เสร็จแล้วก็เดินลงมาถ่ายรูปข้างล่างรอบต่อ สวยมากเลยถ่ายไปได้ตลอดสองข้างทาง มีการแสดงพื้นเมือง มีคนมาเดินเล่น พาหมามาเดินเล่น หมาแต่งตัวจัดเต็มมาก เพราะอากาศก็เย็นเอาเรื่องเหมือนกัน ต้องมานะใครมาโอซาก้าห้ามพลาดเลย
แล้วก็กลับไปสถานีรถไฟนั่งรถไฟไปที่ วัดชินเทนโนจิต่อ เนื่องจากเวลาเรามีน้อยเลยต้องเลือกแต่ที่ที่อยากไปจริงๆ เดี่ยวว่างๆค่อยมาเก็บต่อที่เหลือ ข้อเสียของการมาเที่ยวช่วงปีใหม่คนเยอะทุกที ถ่ายรูปยาก รอคิวนาน แต่ข้อดีที่นี้เข้าคิวทุกทีไม่มีแซงคิวไม่ต้องบอกกันให้เมื่อยปาก
สุดท้ายขอฝากภาพสวยๆ กับทริปครั้งนี้ไว้เท่านี้ก่อน เเล้วครั้งหน้ามาติดตามกันนะคะว่าจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ