เป็นอีกหนึ่งฤดูที่เยี่ยมยอดเหมาะสำหรับการไปเที่ยวญี่ปุ่นมากจริงๆ สำหรับฤดูใบไม้ร่วงหรือ 秋 (Aki) เพราะว่าหลังจากหน้าร้อนแล้วอากาศจะเริ่มเย็นขึ้น และเหล่าใบเมเปิ้ลหรือโมมิจิก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง สวยงามมากเลยทีเดียวล่ะจ้า ซึ่งที่ญี่ปุ่นนั้นก็มีสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีอยู่มากมาย ค่อยๆ ไล่จากทางภาคเหนือลงมา (จังหวัดไหนอากาศเย็นก่อนก็จะเปลี่ยนสีก่อน) วันนี้ก็เลยจะมาแนะนำสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองใหญ่อย่างโอซาก้าให้ได้ชมกัน เผื่อใครมีแพลนไปเที่ยวช่วงฤดูนี้ก็จะได้จดพิกัดลายแทงไปเที่ยวกันได้ ส่วนใครที่กำลังส่อง ลังเลอยู่ว่าจะไปดีไหม ตั๋วก็แพ๊งแพง ก็ขอแนะนำ Thai AirAsia X เลยจ้า เพราะเขามีตั๋วราคาประหยัดไปดูใบไม้แดงกันฟินๆ แถมบินตรงถึงโอซาก้าด้วยนะ
วัดไดอิโทคุจิ (大威徳寺)
วัดที่ตั้งอยู่เขาอุชิทากิยามะในจังหวัดโอซาก้า ซึ่งถูกบันทึกสมบัติประจำชาติของประเทศญี่ปุ่นทางด้านวัฒนธรรม ที่แห่งนี้เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมในจังหวัดโอซาก้า พรั่งพรูไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเคารพสักการะและมาเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีโดยเฉพาะช่วงวันหยุด นอกจากตัววัดแล้วก็ยังมีเส้นทางเดินป่าบนเขาอุชิทากิยามะให้ชมความงามของใบโมมิจิที่มีอยู่มากมายบนเขาด้วย
ใบไม้แดงเต็มที่ในช่วง : กลางพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
เทศกาลโมมิจิ : 23 พฤศจิกายน
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสายนันไกฮอนเซ็นมาลงที่สถานีคิชิวาดะ ต่อด้วยรถบัสนันไกเบอร์ 11 ถึงป้ายอุชิทากิยามะและเดินอีก 3 นาที
วัดคิวอันจิ (久安寺)
อีกหนึ่งวัดพุทธที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นในเมืออิเคดะ และมีประวัติมายาวนาน ก่อตั้งโดยพระสงฆ์ที่มาจากนาระตั้งแต่เมื่อปี 725 นอกจากความสวยงามของตัวอาคารวัดแล้ว จุดเด่นของวัดนี้ก็คือสวนรอบๆ วัดที่มีความสวยงามเต็มไปด้วยดอกไม้ โดยช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมามากที่สุดเลยก็คือช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้แหละ เพราะว่าใบโมมิจิเปลี่ยนสีของที่นี่นั้นงดงามจริงๆ และทุกๆ ปี ที่วัดแห่งนี้ก็จะมีการจัดงานเทศกาลโมมิจิด้วย
ใบไม้แดงเต็มที่ในช่วง : กลางพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
เทศกาลโมมิจิ : 15 พฤศจิกายน
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฮังคิวไปลงที่สถานีอิเคดะ ต่อด้วยรสบัสฮังคิวอีก 15 นาที
วัดมัตสึโอเดระ (松尾寺)
หนึ่งในวัดที่ถูกบันทึกให้เป็นสมบัติประจำชาติของประเทศญี่ปุ่นทางด้านวัฒนธรรม ที่นี่ทุกคนสามารถที่จะสัมผัสความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่ล้อมรอบและเรียงรายประหนึ่งเหมือนอุโมงใบไม้เข้าไปถึงอาคารหลักในตัววัดได้ นอกจากฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วก็ยังมีความงดงามให้ชมกันทุกฤดูเลย ซึ่งที่นี่จะเริ่มบานตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจ้า
ใบไม้แดงเต็มที่ในช่วง : กลางพฤศจิกายน - ปลายเดือนธันวาคม
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสายเซ็นโบคุ ลงที่สถานีอิซุมิโจ ต่อด้วยรถบัสนันไกเบอร์ 5 ลงที่ป้ายมัตสึโอเดระ และเดินต่ออีก 10 นาที
สวนมิโนโอะ (箕面公園)
Minoo Park หุบเขาป่าไม้ที่ตั้งอยู่นอกตัวเมือง ในช่วงฤดูไบไม้ร่วง ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีเส้นทางการเดินประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินประมาณ 45 นาที ระหว่างเส้นทางก็จะได้พบนํ้าตก Minoo ความสูง 33 เมตร ที่มีความสวยงามและจุดชมวิวสวยงามรายล้อมไปด้วยต้นไม้ รวมไปถึงร้านค้ามากมายที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนั้นก็ยังมีวัดริวอันจิที่สวยงามอีกด้วย (ริวอันจิ เป็นคนละวัดกับเรียวอันจิที่เป็นวัดหินนะจ๊ะ)
ใบไม้แดงเต็มที่ในช่วง : กลางพฤศจิกายน
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฮังคิวสายทาคาระซุกะจากสถานีอิเคดะไปยังสถานีอิชิบาชิ จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปยังสายฮังคิวมิโนะ
วัดคัตสึโอจิ (勝尾寺)
วัดที่มีประวัติและชื่อเสียงมาเนิ่นนานในเรื่องของการขอพรให้ให้พบกับชัยชนะ จนได้รับการขนานนามว่าวัดแห่งชัยชนะ ซึ่งถายในวัดนั้นก็จะมีตุ๊กตาดารุมะตั้งเรียงรายเฝ้ามองอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นตุ๊กตาแห่งความสำเร็จนั่นเอง นอกจากในเรื่องการขอพรแล้ว ยามฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ก็จะมีเหล่านักท่องเที่ยวมาชมความงามของใบไม้แดง ตอนกลางวันก็ว่าสวยแล้ว ตอนกลางคืนก็ยังมีการ Light Up เปิดไฟส่องสว่างสวยงามเลยทีเดียว
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฮังคิวสายทาคาระซุกะจากสถานีอิเคดะไปยังสถานีอิชิบาชิ จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปยังสายฮังคิวมิโนะ และเดินต่ออีก 15 นาที
ปราสาทโอซาก้า (大阪城)
ปราสาทเก่าแก่ในจังหวัดโอซาก้าที่มีความสวยงาม เรียกได้ว่าใครที่ไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงโอซาก้าล่ะจ้า ที่นี่ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวจะมาชมดอกซากุระที่บานสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น แต่ทว่าในฤดใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่เขาก็มีในเมเปิ้ลแดงสดสวยงาม รวมถึงใบต้นแปะก๊วยที่มีสีเหลืองอร่ามก็ยังมีให้ชมด้วยเช่นกัน ชมทั้งตัวปราสาทและใบไม้ ก็เรียกได้ว่าฟินไปตามๆ กัน ที่นี่จะได้เปรียบกว่าที่อื่นอยู่หน่อยเพราะว่าสามารถเดินทางมาได้ง่ายกว่าที่อื่นๆ ไม่ต้องขึ้นเขาลงห้วยแต่อย่างใด
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Tanimachi 4-Chome ทางออก1-B, สาย JR ลงที่สถานีโมริโนะมิยะ
แหม่ เรียกว่าแต่ล่ะที่ก็สวยงามฟินๆ ไม่น้อยหน้าไปกว่าที่เกียวโตเลยล่ะ ใครที่มีแพลนไปโอซาก้าก็อย่าพลาดที่จะไปชมให้ได้เลยนะ ทางผู้เขียนก็ขอแนะนำสายการบิน Thai AirAsia X บริการเที่ยวบินฟินๆ บินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ทุกวัน พร้อมทั้งบริการอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นบริการ Sky Ticket จำหน่ายตั๋วรถบัสวิ่งเข้าสถานีรถไฟโอซาก้าที่เป็นศูนย์กลางเหมาะแก่การตั้งหลักในการเดินทางไปที่อื่น หรือใครที่อยากเที่ยว Universal Studio Japan เขาก็มีจำหน่ายบนเครื่องด้วยนะ ไม่ต้องไปต่อคิวเหนื่อยๆ ให้เสียเวลาฟรี บริการซื้อนํ้าหนักเพิ่มสำหรับขาช็อป และอื่นๆ อีกเพียบในราคาเบาๆ สบายๆ สมกับสโลแกน Thai AirAsia X ญี่ปุ่น ใครใคร… ก็บินได้ ติดตามรายละเอียดและสำรองที่นั่งกันได้โดยพลัน ที่ www.airasia.com
เดินทางสะดวกสบายด้วยเครื่องบินแอร์บัส A330-300 พร้อมที่นั่งกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง Economy หรือ Premium Flatbed และยังมีโซน Quiet อีกด้วย
วัดไดอิโทคุจิ (大威徳寺)
วัดที่ตั้งอยู่เขาอุชิทากิยามะในจังหวัดโอซาก้า ซึ่งถูกบันทึกสมบัติประจำชาติของประเทศญี่ปุ่นทางด้านวัฒนธรรม ที่แห่งนี้เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมในจังหวัดโอซาก้า พรั่งพรูไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเคารพสักการะและมาเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีโดยเฉพาะช่วงวันหยุด นอกจากตัววัดแล้วก็ยังมีเส้นทางเดินป่าบนเขาอุชิทากิยามะให้ชมความงามของใบโมมิจิที่มีอยู่มากมายบนเขาด้วย
ใบไม้แดงเต็มที่ในช่วง : กลางพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
เทศกาลโมมิจิ : 23 พฤศจิกายน
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสายนันไกฮอนเซ็นมาลงที่สถานีคิชิวาดะ ต่อด้วยรถบัสนันไกเบอร์ 11 ถึงป้ายอุชิทากิยามะและเดินอีก 3 นาที
วัดคิวอันจิ (久安寺)
อีกหนึ่งวัดพุทธที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นในเมืออิเคดะ และมีประวัติมายาวนาน ก่อตั้งโดยพระสงฆ์ที่มาจากนาระตั้งแต่เมื่อปี 725 นอกจากความสวยงามของตัวอาคารวัดแล้ว จุดเด่นของวัดนี้ก็คือสวนรอบๆ วัดที่มีความสวยงามเต็มไปด้วยดอกไม้ โดยช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมามากที่สุดเลยก็คือช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้แหละ เพราะว่าใบโมมิจิเปลี่ยนสีของที่นี่นั้นงดงามจริงๆ และทุกๆ ปี ที่วัดแห่งนี้ก็จะมีการจัดงานเทศกาลโมมิจิด้วย
ใบไม้แดงเต็มที่ในช่วง : กลางพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
เทศกาลโมมิจิ : 15 พฤศจิกายน
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฮังคิวไปลงที่สถานีอิเคดะ ต่อด้วยรสบัสฮังคิวอีก 15 นาที
วัดมัตสึโอเดระ (松尾寺)
หนึ่งในวัดที่ถูกบันทึกให้เป็นสมบัติประจำชาติของประเทศญี่ปุ่นทางด้านวัฒนธรรม ที่นี่ทุกคนสามารถที่จะสัมผัสความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่ล้อมรอบและเรียงรายประหนึ่งเหมือนอุโมงใบไม้เข้าไปถึงอาคารหลักในตัววัดได้ นอกจากฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วก็ยังมีความงดงามให้ชมกันทุกฤดูเลย ซึ่งที่นี่จะเริ่มบานตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจ้า
ใบไม้แดงเต็มที่ในช่วง : กลางพฤศจิกายน - ปลายเดือนธันวาคม
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสายเซ็นโบคุ ลงที่สถานีอิซุมิโจ ต่อด้วยรถบัสนันไกเบอร์ 5 ลงที่ป้ายมัตสึโอเดระ และเดินต่ออีก 10 นาที
สวนมิโนโอะ (箕面公園)
Minoo Park หุบเขาป่าไม้ที่ตั้งอยู่นอกตัวเมือง ในช่วงฤดูไบไม้ร่วง ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีเส้นทางการเดินประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินประมาณ 45 นาที ระหว่างเส้นทางก็จะได้พบนํ้าตก Minoo ความสูง 33 เมตร ที่มีความสวยงามและจุดชมวิวสวยงามรายล้อมไปด้วยต้นไม้ รวมไปถึงร้านค้ามากมายที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนั้นก็ยังมีวัดริวอันจิที่สวยงามอีกด้วย (ริวอันจิ เป็นคนละวัดกับเรียวอันจิที่เป็นวัดหินนะจ๊ะ)
ใบไม้แดงเต็มที่ในช่วง : กลางพฤศจิกายน
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฮังคิวสายทาคาระซุกะจากสถานีอิเคดะไปยังสถานีอิชิบาชิ จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปยังสายฮังคิวมิโนะ
วัดคัตสึโอจิ (勝尾寺)
วัดที่มีประวัติและชื่อเสียงมาเนิ่นนานในเรื่องของการขอพรให้ให้พบกับชัยชนะ จนได้รับการขนานนามว่าวัดแห่งชัยชนะ ซึ่งถายในวัดนั้นก็จะมีตุ๊กตาดารุมะตั้งเรียงรายเฝ้ามองอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นตุ๊กตาแห่งความสำเร็จนั่นเอง นอกจากในเรื่องการขอพรแล้ว ยามฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ก็จะมีเหล่านักท่องเที่ยวมาชมความงามของใบไม้แดง ตอนกลางวันก็ว่าสวยแล้ว ตอนกลางคืนก็ยังมีการ Light Up เปิดไฟส่องสว่างสวยงามเลยทีเดียว
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฮังคิวสายทาคาระซุกะจากสถานีอิเคดะไปยังสถานีอิชิบาชิ จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปยังสายฮังคิวมิโนะ และเดินต่ออีก 15 นาที
ปราสาทโอซาก้า (大阪城)
ปราสาทเก่าแก่ในจังหวัดโอซาก้าที่มีความสวยงาม เรียกได้ว่าใครที่ไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงโอซาก้าล่ะจ้า ที่นี่ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวจะมาชมดอกซากุระที่บานสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น แต่ทว่าในฤดใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่เขาก็มีในเมเปิ้ลแดงสดสวยงาม รวมถึงใบต้นแปะก๊วยที่มีสีเหลืองอร่ามก็ยังมีให้ชมด้วยเช่นกัน ชมทั้งตัวปราสาทและใบไม้ ก็เรียกได้ว่าฟินไปตามๆ กัน ที่นี่จะได้เปรียบกว่าที่อื่นอยู่หน่อยเพราะว่าสามารถเดินทางมาได้ง่ายกว่าที่อื่นๆ ไม่ต้องขึ้นเขาลงห้วยแต่อย่างใด
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Tanimachi 4-Chome ทางออก1-B, สาย JR ลงที่สถานีโมริโนะมิยะ
แหม่ เรียกว่าแต่ล่ะที่ก็สวยงามฟินๆ ไม่น้อยหน้าไปกว่าที่เกียวโตเลยล่ะ ใครที่มีแพลนไปโอซาก้าก็อย่าพลาดที่จะไปชมให้ได้เลยนะ ทางผู้เขียนก็ขอแนะนำสายการบิน Thai AirAsia X บริการเที่ยวบินฟินๆ บินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ทุกวัน พร้อมทั้งบริการอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นบริการ Sky Ticket จำหน่ายตั๋วรถบัสวิ่งเข้าสถานีรถไฟโอซาก้าที่เป็นศูนย์กลางเหมาะแก่การตั้งหลักในการเดินทางไปที่อื่น หรือใครที่อยากเที่ยว Universal Studio Japan เขาก็มีจำหน่ายบนเครื่องด้วยนะ ไม่ต้องไปต่อคิวเหนื่อยๆ ให้เสียเวลาฟรี บริการซื้อนํ้าหนักเพิ่มสำหรับขาช็อป และอื่นๆ อีกเพียบในราคาเบาๆ สบายๆ สมกับสโลแกน Thai AirAsia X ญี่ปุ่น ใครใคร… ก็บินได้ ติดตามรายละเอียดและสำรองที่นั่งกันได้โดยพลัน ที่ www.airasia.com
เดินทางสะดวกสบายด้วยเครื่องบินแอร์บัส A330-300 พร้อมที่นั่งกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง Economy หรือ Premium Flatbed และยังมีโซน Quiet อีกด้วย