เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า หากใครจะไปพักแถวฟูจิ ก็จะต้องไปพักแถวทะเลสาบคาวากูจิโกะ ซึ่งมีโรงแรมที่พักมากมายให้เลือก แต่แอนไปแถวนั้นบ่อยแล้ว ทริปนี้เลยเลือกเปลี่ยนบรรยากาศไปหาที่เงียบๆ พักบ้างดีกว่า
และที่เลือกไปพักแถวทะเลสาบ Yamanakako เพราะตอนเช้าตรู่แอนอยากไปเที่ยวจุดชมวิวฟูจิจากมุมที่สูงที่สุดที่เรียกว่า Panorama Dai แบบนี้ค่ะ (ภาพนี้เป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน ฤดูใบไม้ร่วงนะคะ)
แอนหาที่พักที่ทะเลสาบ Yamanakako ในราคาประมาณ 2,000 บาท และไม่เอาอาหารเช้า เพราะแอนชอบไปหากินในสะดวกซื้อ หรือตะลุยชิมระหว่างทางไปเรื่อยๆ ค่ะ
ก็ไปเจอที่พักเล็กๆ ชื่อ "Pension Human" ดูรีวิวแล้วไม่เจอคนไทยรีวิวไว้ค่ะ มีแต่ฝรั่งทั้งนั้นเลย ซึ่งไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรไว้มากนักหรอกค่ะ แค่ให้ดาวเฉยๆ
สิ่งที่ไปเจอด้วยตัวเอง คือ ที่นี่เป็นที่พักเล็กๆ แม้ไม่ติดทะเลสาบ แต่ก็ต้องตะลึงกับบรรยากาศแบบกลางป่าในหนังฝรั่งค่ะ และที่สำคัญบริการดีอบอุ่นมากๆ เจ้าของและพนักงานภาษาอังกฤษดีมากๆ
บ้านหลังสีเขียวๆ นี่แหละค่ะ Pension Human จอดรถได้หน้าบ้านแบบนี้เลย และที่สำคัญคือ ไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถค่ะ
ที่นอนอุ่นๆ หวานๆ น่ารักมากค่ะ
ห้องทานอาหาร ที่สามารถสั่งจากที่พักได้ หรือนำมาอุ่นไมโครเวฟทานเองได้
ตรงข้ามที่พัก เป็นบ้านใครก็ไม่รู้ บรรยากาศแบบฝรั่งๆ ฤดูใบไม้ร่วง ก็จะแห้งๆ โทนน้ำตาลแบบนี้ค่ะ
กลางพฤศจิกายน กลางวันอุณหภูมิก็เลขตัวเดียว หนาวมาก แต่ยังไม่มีหิมะ อากาศตอนกลางคืนตำสุดที่ -3 องศา ตื่นขึ้นมาเจอน้ำแข็งคลุมรถแบบนี้เลย
แม่คะนิ้งดีๆ นี่เอง หนาวมากเหลือเกิน (แต่ถ้าอยู่ในตัวที่พักจะอบอุ่นมากค่ะ)
ห้องทานอาหาร อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเยอะอยู่ ถ้าสั่งอาหารเช้าด้วย คิดเพิ่มคนละ 1,500 เยน (ประมาณ 450 บาท ต่อคน) แอนไปหาทานข้างนอกค่ะ
พื้นที่ส่วนกลาง นั่งนอนเล่นพอประมาณค่ะ
ทางเดินไปห้องพัก บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ แต่ไม่พลุกพล่านค่ะ ไม่รู้ลูกค้าไปไหนหมด แอนเจอฝรั่งแค่คนเดียวเอง
มีออนเซนนะจ๊ะ แยกชาย-หญิง
ห้องน้ำไม่ได้อยู่ในห้องนอนนะคะ เป็นห้องรวมด้านนอกห้องนอน แต่มีการแยกชายหญิง
แอนไม่ได้ใช้เวลาในที่พักมากนัก เพราะตอนเช้ารีบขึ้นไปจุดชมวิวที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ขับรถไปไม่ถึง 10 นาทีค่ะ
เส้นทางขับรถ ก็เป็นเส้นทางขึ้นเขา คดโค้งค่ะ ดูๆ ไปก็เหมือนโค้งที่ อ.ปาย ทางไปแม่ฮ่องสอนค่ะ
นอกจากเห็นฟูจิแล้วนั้น วิวที่เห็นบนจุดชมวิว ก็มีเขาลูกอื่นสลับซับซ้อนเรียงราย
แอนชอบนะ สวยได้อารมณ์คล้ายๆ Tateyama
ใบไม้ร่วงหมดแล้ว แห้งกรอบไปหมด (กลางเดือนพฤศจิกายน)
ลานจอดรถตรงจุดชมวิวค่ะ มีคนถึกทนหนาวอยู่หลายคันเลยค่ะ ?
บรรยากาศก็มีลม มีหมอก บางทีก็เห็นวิว บางจังหวะหมอกก็บังเมืองมิดไปเลย
นี่ไง อาหารเช้าของแอน ที่แวะซื้อจากเซเว่นก่อนขึ้นมาที่จุดชมวิวนี้ ไม่กันดารค่ะ
แค่นั่งกินซาลาเปากับกาแฟดูฟูจิไป คือที่สุดของความฟินค่ะ
และที่เลือกไปพักแถวทะเลสาบ Yamanakako เพราะตอนเช้าตรู่แอนอยากไปเที่ยวจุดชมวิวฟูจิจากมุมที่สูงที่สุดที่เรียกว่า Panorama Dai แบบนี้ค่ะ (ภาพนี้เป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน ฤดูใบไม้ร่วงนะคะ)
แอนหาที่พักที่ทะเลสาบ Yamanakako ในราคาประมาณ 2,000 บาท และไม่เอาอาหารเช้า เพราะแอนชอบไปหากินในสะดวกซื้อ หรือตะลุยชิมระหว่างทางไปเรื่อยๆ ค่ะ
ก็ไปเจอที่พักเล็กๆ ชื่อ "Pension Human" ดูรีวิวแล้วไม่เจอคนไทยรีวิวไว้ค่ะ มีแต่ฝรั่งทั้งนั้นเลย ซึ่งไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรไว้มากนักหรอกค่ะ แค่ให้ดาวเฉยๆ
สิ่งที่ไปเจอด้วยตัวเอง คือ ที่นี่เป็นที่พักเล็กๆ แม้ไม่ติดทะเลสาบ แต่ก็ต้องตะลึงกับบรรยากาศแบบกลางป่าในหนังฝรั่งค่ะ และที่สำคัญบริการดีอบอุ่นมากๆ เจ้าของและพนักงานภาษาอังกฤษดีมากๆ
บ้านหลังสีเขียวๆ นี่แหละค่ะ Pension Human จอดรถได้หน้าบ้านแบบนี้เลย และที่สำคัญคือ ไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถค่ะ
ที่นอนอุ่นๆ หวานๆ น่ารักมากค่ะ
ห้องทานอาหาร ที่สามารถสั่งจากที่พักได้ หรือนำมาอุ่นไมโครเวฟทานเองได้
ตรงข้ามที่พัก เป็นบ้านใครก็ไม่รู้ บรรยากาศแบบฝรั่งๆ ฤดูใบไม้ร่วง ก็จะแห้งๆ โทนน้ำตาลแบบนี้ค่ะ
กลางพฤศจิกายน กลางวันอุณหภูมิก็เลขตัวเดียว หนาวมาก แต่ยังไม่มีหิมะ อากาศตอนกลางคืนตำสุดที่ -3 องศา ตื่นขึ้นมาเจอน้ำแข็งคลุมรถแบบนี้เลย
แม่คะนิ้งดีๆ นี่เอง หนาวมากเหลือเกิน (แต่ถ้าอยู่ในตัวที่พักจะอบอุ่นมากค่ะ)
ห้องทานอาหาร อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเยอะอยู่ ถ้าสั่งอาหารเช้าด้วย คิดเพิ่มคนละ 1,500 เยน (ประมาณ 450 บาท ต่อคน) แอนไปหาทานข้างนอกค่ะ
พื้นที่ส่วนกลาง นั่งนอนเล่นพอประมาณค่ะ
ทางเดินไปห้องพัก บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ แต่ไม่พลุกพล่านค่ะ ไม่รู้ลูกค้าไปไหนหมด แอนเจอฝรั่งแค่คนเดียวเอง
มีออนเซนนะจ๊ะ แยกชาย-หญิง
ห้องน้ำไม่ได้อยู่ในห้องนอนนะคะ เป็นห้องรวมด้านนอกห้องนอน แต่มีการแยกชายหญิง
แอนไม่ได้ใช้เวลาในที่พักมากนัก เพราะตอนเช้ารีบขึ้นไปจุดชมวิวที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ขับรถไปไม่ถึง 10 นาทีค่ะ
เส้นทางขับรถ ก็เป็นเส้นทางขึ้นเขา คดโค้งค่ะ ดูๆ ไปก็เหมือนโค้งที่ อ.ปาย ทางไปแม่ฮ่องสอนค่ะ
นอกจากเห็นฟูจิแล้วนั้น วิวที่เห็นบนจุดชมวิว ก็มีเขาลูกอื่นสลับซับซ้อนเรียงราย
แอนชอบนะ สวยได้อารมณ์คล้ายๆ Tateyama
ใบไม้ร่วงหมดแล้ว แห้งกรอบไปหมด (กลางเดือนพฤศจิกายน)
ลานจอดรถตรงจุดชมวิวค่ะ มีคนถึกทนหนาวอยู่หลายคันเลยค่ะ ?
บรรยากาศก็มีลม มีหมอก บางทีก็เห็นวิว บางจังหวะหมอกก็บังเมืองมิดไปเลย
นี่ไง อาหารเช้าของแอน ที่แวะซื้อจากเซเว่นก่อนขึ้นมาที่จุดชมวิวนี้ ไม่กันดารค่ะ
แค่นั่งกินซาลาเปากับกาแฟดูฟูจิไป คือที่สุดของความฟินค่ะ