Soup Curry เป็นอาหารที่เรียกได้ว่า ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองซับโปโรเป็นที่แรกของโลก แต่เป็นการ Fusion อาหารของแถบอินเดียหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างบ้านเราเข้าไปรวมกัน แล้วมาเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น แปลกดีใช่ไหมคะ จุดเด่นก็คงเป็นอาหารที่มีสมุนไพรและเครื่องเทศที่ดีต่อสุขภาพ สำหรับหน้าหนาวและเมืองหิมะในซับโปโร ได้ทานอะไรเผ็ดร้อนแบบนี้ คงดีต่อสุขภาพและจิตใจไม่น้อย
อาหารชนิดนี้เกิดขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อราวๆ ปี 1970 เมื่อร้านที่ชื่อว่า Ajanta ได้เสริฟ Soup Curry จานแรกในซับโปโร หลังจากนั้นอาหารชนิดนี้ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก มีร้านอาหารแค่ไม่กี่ร้านเท่านั้นเอง จนในปี 2002 ร้านอาหารซุปคาเร่ก็ได้รับความนิยมและผุดขึ้นอย่างรวดเร็วราวดอกเห็ด แถมยังมีการประกวดร้านที่มีซุปคาเร่อร่อยเด็ดสุดในซับโปโรเป็นประจำทุกปี
โดยส่วนตัวผู้เขียนเคยไปเรียนที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโดในช่วงปี 2007-2009 ตามธรรมดาคนไทย ที่จะชอบอาหารรสจัด เผ็ดร้อน แต่อาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่คือ มีรสเค็มด้วยโชยุ ดังนั้นถ้าเราได้ทานอะไรที่เป็นแกงแบบบ้านเราสำหรับนักเรียนไทยในญี่ปุ่นก็คือ "สวรรค์ของเรา" สำหรับราคาสมัยก่อนก็จะราวๆ 980 เยน ราคาเมื่อปี 2018
จานนี้ที่เห็นในภาพไม่รวมน้ำราคาประมาณ 1130 เยน แต่ปีนี้ล่าสุดเพิ่งไปมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ราคา 1200 เยน ถ้านานๆ ทานทีเพื่อปรับรสชาติอาหาร ราคานี้สำหรับนักเรียนไทยก็โอเค และสำหรับนักท่องเที่ยวราคาประมาณนี้ ก็ไม่ได้แพงมากนัก เมื่อไหร่ที่ได้ไปซับโปโรร้านแรกที่เราจะนึกถึงเสมอ ก็คือร้านนี้ Picante Soup Curry เปิดร้านมาตั้งแต่ปี 2000
เอกลักษณ์สำคัญของ Picante Soup Curry ที่เรารักมากที่สุด คือ ไก่ทอดกรอบที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า Sakutto Pica chikin (サクッとPICAチキン) แน่นอนว่าในไก่ต้องมีเครื่องเทศกลิ่นหอมๆ แป้งกรอบๆ ปกติเป็นคนชอบไก่ทอด และเมื่อเอาไก่ทอดมาผสมกับแกงกะหรี่แบบสไตล์ของร้านปิกันเต้ บวกกับผักทอดอร่อยๆ ทั้งฟักทอง พริกหยวก มะเขือม่วง แครอท และหน่อไม้ฝรั่ง หรือถ้าไม่สะใจก็สั่งผักอื่นๆ มาเป็น Topping เพิ่มได้
สังเกตถ้วยที่ใส่อาหารเขาจะออกแบบให้มีที่วางสำหรับไก่ทอดโดยเฉพาะเพื่อไม่ให้โดนน้ำซุปแล้วเสียความกรอบไป ใส่ใจทุกรายละเอียดสมเป็น Japanese Style ค่ะ
Picante Soup Curry (http://www.picante.jp/picantemenu/)
วันเวลาทำการ : 11.30-23:00
ที่อยู่: Nishi 3-chome¸Kita 13¸Kita-ku¸Sapporo¸Hokkaido
วิธีการสั่งอาหาร
ปกติเขาจะมีเมนูภาษาอังกฤษสามารถขอมาได้
ขั้นตอนที่ 1 เลือกน้ำซุป จะมี 3 แบบ แล้วแต่คนชอบ ปกติเราจะชอบสั่งแบบที่ 3 Herbal medicine rich soup เพราะว่าเข้มข้นดี
ขั้นตอนที่ 2 เลือกเนื้อว่าต้องการแบบไหน ตามเมนูจะเห็นว่ามีทั้งไก่ต้ม ไก่ทอด เนื้อแกะ เนื้อวัว เนื้อหมู หรือผักอย่างเดียว อันนี้แล้วแต่ชอบ สำหรับเราแล้ว ต้องไก่ทอดเท่านั้น ไม่เคยเปลี่ยนใจ จะ 10 ปีมาแล้วก็ยังรักเดียวใจเดียว Crispy PICA Chicken ค่ะ
ขั้นตอนที่ 3 เลือกความเผ็ด คือถ้าเผ็ดระดับ 1-2 คือไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม แต่ถ้าคนไทยอย่างเราชอบเผ็ดแนะนำสัก 3-4 ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าสายแซ่บ ก็ต้องเบอร์ 5 จัดเต็ม
ขั้นตอนสุดท้าย คือเลือก Topping เพิ่มเติม อันนี้ถ้างบจำกัดก็คงต้องหยุดก่อน แต่ถ้ายังมีงบเหลือเราแนะนำ เบค่อนทอดค่ะ
เมนูซุปคาเร่ไก่ทอดกรอบแถมใส่เบค่อนทอด ถ้าไม่ห่วงเรื่องไขมันและแคลอรี่ที่จะเกินพอดี ต้องลองสักครั้งค่ะ
ถ้าอยากสั่งน้ำเพิ่ม หรือขนมหวานเล็กๆ น้อยๆ มาทานก็มีให้เลือกได้นิดหน่อยนะคะ หวังว่า ถ้าใครไปฮอกไกโด ถ้าอยากไปถึงที่ต้องได้กินซุปคาเร่กันนะคะ ร้านโดนๆ อื่นๆ ก็มีอีกหลายร้าน แต่ถ้าในใจเราก็ยังต้องเป็นร้านนี้แหละค่ะ รักที่สุดในซับโปโร ถ้าจะไปในช่วงเวลาคนเยอะๆ อาจจะต้องไปลองดูก่อนนะคะว่าคิวยาวไหม เพราะร้านนี้ใครๆ ก็รู้จักค่ะ
สำหรับวันนี้เเวะมาเเชร์ของอร่อยอย่าง Picante Soup เเล้ว อย่าลืมติดตามกันครั้งหน้าว่าจะมารีวิวหรือเเนะนำอะไรกันต่อค่ะ :)
ありがとうございます。
อาหารชนิดนี้เกิดขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อราวๆ ปี 1970 เมื่อร้านที่ชื่อว่า Ajanta ได้เสริฟ Soup Curry จานแรกในซับโปโร หลังจากนั้นอาหารชนิดนี้ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก มีร้านอาหารแค่ไม่กี่ร้านเท่านั้นเอง จนในปี 2002 ร้านอาหารซุปคาเร่ก็ได้รับความนิยมและผุดขึ้นอย่างรวดเร็วราวดอกเห็ด แถมยังมีการประกวดร้านที่มีซุปคาเร่อร่อยเด็ดสุดในซับโปโรเป็นประจำทุกปี
โดยส่วนตัวผู้เขียนเคยไปเรียนที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโดในช่วงปี 2007-2009 ตามธรรมดาคนไทย ที่จะชอบอาหารรสจัด เผ็ดร้อน แต่อาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่คือ มีรสเค็มด้วยโชยุ ดังนั้นถ้าเราได้ทานอะไรที่เป็นแกงแบบบ้านเราสำหรับนักเรียนไทยในญี่ปุ่นก็คือ "สวรรค์ของเรา" สำหรับราคาสมัยก่อนก็จะราวๆ 980 เยน ราคาเมื่อปี 2018
จานนี้ที่เห็นในภาพไม่รวมน้ำราคาประมาณ 1130 เยน แต่ปีนี้ล่าสุดเพิ่งไปมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ราคา 1200 เยน ถ้านานๆ ทานทีเพื่อปรับรสชาติอาหาร ราคานี้สำหรับนักเรียนไทยก็โอเค และสำหรับนักท่องเที่ยวราคาประมาณนี้ ก็ไม่ได้แพงมากนัก เมื่อไหร่ที่ได้ไปซับโปโรร้านแรกที่เราจะนึกถึงเสมอ ก็คือร้านนี้ Picante Soup Curry เปิดร้านมาตั้งแต่ปี 2000
เอกลักษณ์สำคัญของ Picante Soup Curry ที่เรารักมากที่สุด คือ ไก่ทอดกรอบที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า Sakutto Pica chikin (サクッとPICAチキン) แน่นอนว่าในไก่ต้องมีเครื่องเทศกลิ่นหอมๆ แป้งกรอบๆ ปกติเป็นคนชอบไก่ทอด และเมื่อเอาไก่ทอดมาผสมกับแกงกะหรี่แบบสไตล์ของร้านปิกันเต้ บวกกับผักทอดอร่อยๆ ทั้งฟักทอง พริกหยวก มะเขือม่วง แครอท และหน่อไม้ฝรั่ง หรือถ้าไม่สะใจก็สั่งผักอื่นๆ มาเป็น Topping เพิ่มได้
สังเกตถ้วยที่ใส่อาหารเขาจะออกแบบให้มีที่วางสำหรับไก่ทอดโดยเฉพาะเพื่อไม่ให้โดนน้ำซุปแล้วเสียความกรอบไป ใส่ใจทุกรายละเอียดสมเป็น Japanese Style ค่ะ
Picante Soup Curry (http://www.picante.jp/picantemenu/)
วันเวลาทำการ : 11.30-23:00
ที่อยู่: Nishi 3-chome¸Kita 13¸Kita-ku¸Sapporo¸Hokkaido
วิธีการสั่งอาหาร
ปกติเขาจะมีเมนูภาษาอังกฤษสามารถขอมาได้
ขั้นตอนที่ 1 เลือกน้ำซุป จะมี 3 แบบ แล้วแต่คนชอบ ปกติเราจะชอบสั่งแบบที่ 3 Herbal medicine rich soup เพราะว่าเข้มข้นดี
ขั้นตอนที่ 2 เลือกเนื้อว่าต้องการแบบไหน ตามเมนูจะเห็นว่ามีทั้งไก่ต้ม ไก่ทอด เนื้อแกะ เนื้อวัว เนื้อหมู หรือผักอย่างเดียว อันนี้แล้วแต่ชอบ สำหรับเราแล้ว ต้องไก่ทอดเท่านั้น ไม่เคยเปลี่ยนใจ จะ 10 ปีมาแล้วก็ยังรักเดียวใจเดียว Crispy PICA Chicken ค่ะ
ขั้นตอนที่ 3 เลือกความเผ็ด คือถ้าเผ็ดระดับ 1-2 คือไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม แต่ถ้าคนไทยอย่างเราชอบเผ็ดแนะนำสัก 3-4 ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าสายแซ่บ ก็ต้องเบอร์ 5 จัดเต็ม
ขั้นตอนสุดท้าย คือเลือก Topping เพิ่มเติม อันนี้ถ้างบจำกัดก็คงต้องหยุดก่อน แต่ถ้ายังมีงบเหลือเราแนะนำ เบค่อนทอดค่ะ
เมนูซุปคาเร่ไก่ทอดกรอบแถมใส่เบค่อนทอด ถ้าไม่ห่วงเรื่องไขมันและแคลอรี่ที่จะเกินพอดี ต้องลองสักครั้งค่ะ
ถ้าอยากสั่งน้ำเพิ่ม หรือขนมหวานเล็กๆ น้อยๆ มาทานก็มีให้เลือกได้นิดหน่อยนะคะ หวังว่า ถ้าใครไปฮอกไกโด ถ้าอยากไปถึงที่ต้องได้กินซุปคาเร่กันนะคะ ร้านโดนๆ อื่นๆ ก็มีอีกหลายร้าน แต่ถ้าในใจเราก็ยังต้องเป็นร้านนี้แหละค่ะ รักที่สุดในซับโปโร ถ้าจะไปในช่วงเวลาคนเยอะๆ อาจจะต้องไปลองดูก่อนนะคะว่าคิวยาวไหม เพราะร้านนี้ใครๆ ก็รู้จักค่ะ
สำหรับวันนี้เเวะมาเเชร์ของอร่อยอย่าง Picante Soup เเล้ว อย่าลืมติดตามกันครั้งหน้าว่าจะมารีวิวหรือเเนะนำอะไรกันต่อค่ะ :)
ありがとうございます。