สวัสดีค่ะทุกคน ㄟ(≧◇≦)ㄏ วันนี้เราก็พามาละลายทรัพย์กันอีกแล้ว (ฮ่า) แต่ในครั้งนี้ร้านที่ทางเรายกมานั้นจะเป็นร้านที่แบ่งแยกกันอย่างชัดเจนค่ะ ในฐานะที่เราเป็นพวกบ้าเครื่องเขียนมาก ๆ ในทาง Quality แล้วเนี่ยบอกได้เลยค่ะว่าเครื่องเขียนแต่ละประเทศค่อนข้างจะมีการ Focus ที่ต่างกันไป อย่างพวกของทางยุโรปก็จะเน้นการใช้งานนาน ตราบชั่วลูกชั่วหลาน (เชื่อเถอะค่ะ เรามีปากกาหัวแร้งที่ใช้ตั้งแต่รุ่งคุณทวดที่เป็นของยุโรป) แต่ในทางญี่ปุ่นจะเน้น Function ที่ใช้งานง่ายค่ะ แบบจับถนัดมือเหมาะกับการเขียนอักษร เหมาะกับการเขียนป้ายอะไรแบบนี้ค่ะ
ร่ายมายาวมากเรื่องของเรื่องก็คือวันนี้จะมาเปิด Map ร้านเครื่องเขียนในญี่ปุ่นที่เป็นร้านนำเข้า VS ร้านที่เป็น Original Brand ค่ะ เพื่อให้รองรับทุกคนที่กำลังตั้งเป้าจะไป Shop เครื่องเขียนได้ลงกันถูกสถานี ว่าแล้วก็ตามมาเลยค่ะ o(≧v≦)o
★ หมวดร้านนำเข้า ★
『 SCOS 』
〒Hongo
รูปภาพจาก : http://www.todaishimbun.org/scos_1/
มากันที่ร้านของนำเข้าร้านแรกเลยค่ะ ร้าน SCOS ร้านนี้เป็นร้านเครื่องเขียนนำเข้าที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย Hongo ในโตเกียวค่ะ ร้านนี้จะเน้นการนำเข้าเครื่องเขียนจากยุโรปโดยเฉพาะเครื่องเขียนเยอรมันนี (ซึ่งดีมาก ๆ ในแง่คุณภาพค่ะ) อย่างเช่นพวกยี่ห้อ Schneider อะไรพวกนี้ค่ะ
รูปภาพจาก : http://northfox.cocolog-nifty.com/stationery/2013/04/scos-4b5b.html
โดยรวมแล้วเครื่องเขียนที่ร้านนี้จะค่อนข้างมีสีสันหลากหลายเหมาะกับการเรียนสมกับที่ตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัย รวมถึงพวกกระดาษและสมุดระดับคุณภาพดีที่นำเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่มีหมดสต็อก และทุกชิ้นยังเป็นของที่คัดเลือกโดยตัวเจ้าของร้านเองด้วยค่ะ เป็นร้านที่แม้ว่าจะเปิดมา 15 ปีเต็มไม่มีวันหยุดแล้วแต่ก็ยังไม่มีวันไหนที่ของจะหมดสต็อกไปจากร้านเลย ยังคงมีมาเติมเรื่อย ๆ
สมุดยี่ห้อดังจากเยอรมันอย่าง 『Herlitz A5 Soft Note』ราคาประมาณ 648 เยน ปากกาอย่าง 『Schneider Slider TouchXB』ที่ปล่อยในปี 2015 ก็สนราคาประมาณ 399 เยน ที่จริงแล้วของในร้านนี้ที่เลือกมาวางแต่ละอย่างเนี่ยจะติดเป็นของคลาสสิคอย่างพวกของที่ดีไซน์และใช้กันมาแล้วกว่า 10 ปีและยังคงใช้ได้อยู่
รูปภาพจาก : http://northfox.cocolog-nifty.com/stationery/2013/04/scos-4b5b.html
และของจำพวกเน้นคุณภาพอย่างพวกสมุดของ Herlitz เองก็มีแบบที่มีความจุกระดาษถึง 150 หน้า ทั้งแบบกริดและแบบเส้นบรรทัดแนวนอน นอกจากนี้ยังมีการตัดมุมสมุดให้โค้งมนให้มันไม่ทำร้ายกระเป๋าอีกด้วย
รูปภาพจาก :
http://ilove.cat/ja/5870
ช่วงหลัง ๆ มานี้ก็มีการนำเข้า Touch Pen สำหรับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และแท็บเลตที่เป็นทรงคล้ายกับปากกาลูกลื่นธรรมดา ของพวกนี้มีน้ำหนักเบาและสามารถพกไปได้ทุกที่อย่างสะดวกสะบาย นอกจากนี้ยังมี 『Gollnow Paper Creations』เป็นพวกกระดาษการ์ดสามมิติรูปสัตว์ที่นำเข้าจากเยอรมันด้วย เป็นร้านที่เน้น Quality จริงๆ นะคะ อย่างไรถ้าใครผ่านไปแถวนั้นก็อย่าลืมแวะเข้าไปดูกันได้ค่ะ ของพวกนี้ซื้อแล้วคุ้มค่าแน่นอน
【?】SCOS
【?】Tokyo Metro Marunouchi line หรือ Toei Oedo line มาลงสถานี Hongo Sanchome เดิน 5 นาที
【?】11:00~18:00
【?】http://www.scos.gr.jp/
【?】-
『Shosaikan』
〒Aoyama
รูปภาพจาก : http://shumibun.jp
มาต่อกันที่ร้านขายเครื่องเขียนอยู่ในซอยเงียบ ๆ หลังถนนเก่าย่านอาโอยาม่ากันค่ะ หลังจากเดินผ่านสวนเล็ก ๆ กับพิพิธภัณฑ์เงียบ ๆ ที่กระจายตัวอยู่แถวนั้นแล้วก็ลองแวะมาดูร้านปากกาหัวแร้งกันหน่อยเป็นไงคะ ปากกาหัวแร้งหรือ Fountain Pen ที่สวยงามถูกจัดวางอยู่บนชั้นสไตล์โชวะ บรรยากาศในร้านที่ละเมียดละไม และหรูหราบรรยากาศเก่า ๆ ของโต๊ะนักเรียนโบราณที่วางกระดาษเอาไว้ให้ได้ลองกัน
รูปภาพจาก : http://www.boq.jp
ปากกาหัวแร้งที่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ใช้กันอย่างแพร่หลายเสียเท่าไหร่ใช่มั้ยล่ะคะ แต่ถ้าได้ลองเขียนแล้วเนี่ยเราว่าไม่ธรรมดาเลยนะคะ เพราะทุกวันนี้เราอยู่ในบรรยากาศที่ค่อนข้างจะเร่งรีบตลอดเวลา การเขียนปากกาหัวแร้งนั้นจัดเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งเวลาและความละเมียดละไมเลยไม่ค่อยใช้กัน แต่เพราะจุดประสงค์ของร้าน ก็คือ "ห้วงเวลาของผู้ใหญ่" จึงทำให้ร้านนี้มีบรรยากาศที่ดูสุขุมคลาสสิคขึ้นมาค่ะ
รูปภาพจาก : timeout.com
ร้านนี้จัดตั้งขึ้นในปี 1982 ในช่วงนั้นปากกา "Delta" ของอิตาลีดังมากค่ะ โดยเฉพาะรุ่น "Dolce Vita Medium Original" ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 86,400 เยน ด้วยฟีลลิ่งรูปร่างของปากกาที่มีสีคล้ายกับแสงอาทิตย์บนท้องฟ้าในอิตาลีตอนใต้ที่สว่างเป็นสีส้มของเต็มไปด้วยพลัง และแต่ละด้ามนั้นช่างฝีมือในยุคนั้นตั้งใจทำทีละชิ้นหล่อด้วยเรซิ่นให้ออกมาเป็นด้ามที่สวยงามสดใสดูคลาสสิคทำให้ลวดลายข้างตัวปากกานั้นต่างกันไป จึงทำให้ปากกาแต่ละด้ามนั้นเป็นชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น
การออกแบบที่มีคุณภาพสูงและงดงามแบบ 'Made in Itaty' นั้นได้รับความนิยมกันมากในหมู่ผู้ชายผู้บริหารที่ต้องใช้ในการเซ็นต์ชื่อบ่อย ๆ ราคาปากกาพวกนี้มีตั้งแต่ราคา 10,000 เยนไปจนถึง 100,000 เยน และยังมีกลุ่ม Limited Edition ของแรร์หายากอีกกว่า 3,000 ชิ้น (ที่อยู่ในตู้นั่นแหละค่ะ) อย่างพวกปากกาที่ออกแบบตามคาแรคเตอร์ของนักกีฬาชื่อดังหรือพวกนักดนตรีในตำนานบางชิ้นนั้นราคาพุ่งไปถึง 2.5 ล้านเยน (กุมอกแน่น) เอาจริง ๆ ทางเราว่าร้านนี้ดีสำหรับคนที่ไปหาของขวัญให้ผู้ใหญ่หรือใครสักคนในวันสำคัญนะคะ ปากกาเซนต์ชื่อนี่ที่หนึ่งเลยค่ะสำหรับของขวัญ แต่ก็ราคาแรงตามคุณภาพเนอะเพราะของพวกนี้มันออกแนวของสะสมหน่อย ๆ ด้วย ยังไงก็ลองไปเยี่ยมชมกันได้ค่ะ
【?】Shosaikan
【?】Tokyo Metro Ginza line / Chidoya line / Hanzomon line สถานี Omotesando เดิน 5 นาทีค่ะ
【?】11:00~20:00
【?】http://www.shosaikan.co.jp/
【?】03-3400-3377
『 Giovanni สาขา Kichijoji 』
〒Kichijoji
รูปภาพจาก : kichijoji-nakamichi.com
มาต่อกันที่ร้านเครื่องเขียนนำเข้าอีกร้านค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่ใจกลางถนนย่าน Kichijoji เป็นร้านที่เต็มไปด้วยเครื่องเขียนและเครื่องใช้จากยุคขุนนางและยุคเล่นแร่แปรธาตุของยุโรปเลยค่ะ *★.• ·* มีตั้งแต่พวกปากกาขนนกของดันเต้ (คือของที่ดันเต้ใช้เองเลย) ไปจนของของแรร์อย่างพวกของสะสมของครอบครัว Medici เริ่มแปลกใจแล้วใช่มั้ยคะ ที่นี่ไม่เชิงเป็นร้านเครื่องเขียนหรอกค่ะ เรียกขุมสมบัติเหมาะกว่า (ฮ่า)
รูปภาพจาก : timeout.com
ซึ่งของแต่ละชิ้นเนี่ยเจ้าของร้านบินไปซื้อมาเองจากอิตาลีเลยนะคะ ทั้งพวกของ Stamps Sealers ปากกาขนนก สมุดสะสมของต่าง ๆ กระดาษ Parchment ทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เป็นของแรร์จากยุโรปเลยค่ะ เวลาไปเดินมันก็เหมือนกับผ่านพิพิธภัณฑ์สุด ๆ โบราณสุด ๆ ของในร้านนี้ส่วนใหญ่จะมี "Made in EU" แปะอยู่เป็นเครื่องประกันค่ะ เพราะฉะนั้นก็เหมาะกับคนที่ชอบเครื่องเขียนจากยุโรปและร้านนี้ก็เป็นร้านที่ฮิตในหมู่ชาวเอเชียที่ชื่นชอบของจากยุโรปยุคกลางเหมือนกันค่ะ (พวกคอสะสมของก็มาเยอะค่ะ)
รูปภาพจาก : akamaized.net
ของขึ้นชื่อของร้านคือ 『ルネサンスシール』(Renaissance Seal) ราคาประมาณ 6,480 เยนค่ะ เป็นของที่นำไอเดียมาจากงานแกะสลักในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ที่ในยุคนั้นการใช้ตราประทับพวกนี้จะมีแค่กลุ่มอัศวินและพวกในสภาเท่านั้นที่จะใช้ได้ คนบ้าน ๆ ชั้นแรงงานไม่มีสิทธิ์ใช้นะคะ ใครอยากจะทดลองเป็นชนชั้นสูงในยุคเรเนซองดูก็ลองซื้อมาใช้ Stamp Seal จดหมายดูค่ะ
Original Product ของร้านนี้เป็นของที่มาจากอิตาลีเท่านั้นนะคะ บรรยากาศในร้านไม้แบบโบราณทำให้รู้สึกฟีลกู้ดสุด ๆ ไหนจะปากกาขนนกตัวซีลจดหมาย ถ้าใครเป็นนักเรียนฮอกวอตส์แล้วล่ะก็ลองมาซื้อของจากร้านนี้ดูค่ะ แม้จะไม่มีปากกาจดทันใจแบบของริต้า สกีตเตอร์ แต่ก็มีหลายอย่างให้ได้เลือกสรรค์ไปใช้ในเทอมหน้าได้นะคะ (ฮ่า) ถ้าไปร้านนี้เป็นครั้งแรกแล้วยังไม่รู้จะเริ่มซื้ออะไรให้ลองซื้อ "Gift set" ดูราคาจะประมาณ 2,700 เยน เป็นตัวแสตมป์กับ Wax Set สำหรับผู้เริ่มต้นค่ะ ที่จริงร้านนี้รับทำตราประทับของตัวเองด้วยนะคะ สั่งได้ค่ะ
【?】 Giovanni สาขา Kichijoji
【?】JR sobu line / Chuo line / Keio Inokashira line ลงสถานี 吉祥寺(Kichijoji) เดินประมาณ 10 นาที
【?】11:00~20:00
【?】https://www.giovanni.jp/
【?】0422 20 0171
★ หมวดร้านแบรนด์ญี่ปุ่น ★
『ANGERS bureau KITTE สาขา Marunouchi』
〒Marunouchi
รูปภาพจาก : timeout.com
มากันที่โหมดร้าน Made in Japan กันบ้างค่ะ หลังจากไปร้านผู้ใหญ่ ๆ เอาใจสายยุโรปมาแล้ว ก็ขอวนกลับมาเอาใจวัยเรียนวัยใสกันบ้าง เพราะว่าในร้าน ANGERS bureau KITTE สาขา Marunouchi เนี่ยเป็นร้านที่รวบรวมของสำหรับ "ห้องเขียนหนังสือ" เอาไว้เลยค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่หน้าสถานีโตเกียวเลยหาไม่ยากแน่นอน ที่จริงก่อนหน้านี้ร้านนี้เป็นร้านที่ดังเรื่องของจุกจิกเบ็ดเตล็ดในเกียวโตค่ะ
รูปภาพจาก : http://www.fhb-watch.com
ภายในร้านมีบรรยากาศเป็นร้านไม้ที่ดูค่อนข้างจะหรูหราพอตัวค่ะ ในแต่ละชั้นก็อัดแน่นไปด้วยเครื่องเขียนที่เป็นของทั้งผู้ใหญ่และนักเรียนนักศึกษา รวมถึงยังมีโซนของเบ็ดเตล็ดจำพวกของบนโต๊ะทำงาน หรือพวกกลุ่มหนังสือ Pocket Book ที่นิยมไว้อ่านบนรถไฟอะไรพวกนั้นด้วยค่ะ และก็เป็นเพราะว่าตั้งอยู่ที่หน้าสถานีโตเกียวเลยทำให้คนค่อนข้างจะพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลาค่ะ
รูปภาพจาก : timeout.com
ร้านนี้เป็นร้านที่มีดินสอ "Varacil" ราคาประมาณ 972 เยน เป็นเครื่องเขียน 「Made in Japan」ที่ค่อนข้างแปลกใหม่ เพราะเป็นดินสอที่เหมือนพวกของเล่นโมเดลที่นำมาประกอบกันค่ะ เอาเข้าจริงแล้วเทรนด์การออกแบบเครื่องเขียนของญี่ปุ่นชิ้นนี้จะออกแนวเป็นเครื่องเขียนเพื่อความบันเทิงด้วยค่ะ คุณสามารถจะเล่นซ้ำ ๆ แกะใหม่ประกอบใหม่ได้อยู่อย่างนั้นทำให้ดินสอธรรมดาดูไม่ธรรมดาอีกต่อไป ของพวกนี้ก็เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติเช่นกัน
รูปภาพจาก : http://angers-kyoto.blogspot.com/2015/07/
นอกจากนี้เรายังของแนะนำ Tool Box ที่ทำจากไม้ดูหรูหรา ที่เมื่อเปิดออกมาจะแสดงให้เห็นอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในได้อย่างชัดเจนสะดวกต่อการใช้ค่ะ ส่วนอันนี้ก็ "Original Tool box" ราคาอยู่ที่ 23,760 เยน ซึ่งสั่งทำจากร้านเฟอร์นิเจอร์ STANDARD TRADE เลยนะคะ ถ้าเอาวางบนโต๊ะเนี่ยยกระดับความดูดีของโต๊ะทำงานได้เลย
รูปภาพจาก : asoview.com
ส่วนสินค้าอื่น ๆ ในร้านโดยเฉพาะมุม Souvenir เนี่ยก็จะเป็นผลิตภัณฑ์จากกระดาษเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ที่มีราคาประมาณ 1,000 เยนหรือต่ำกว่านั้น ในกรณีที่งบมีจำกัดแล้วล่ะก็ ก็ยังสามารถที่จะซื้อเป็นของฝาก Made in Japan ที่ดูดีได้อยู่นะคะ เราเลยลองเข้าไปแล้วเป็นร้านที่มีเสน่ห์มาก ๆ เลย อีกอย่างหนึ่งก็คือจะมีการจัดแต่งร้านใหม่ทุกเดือนด้วยค่ะ ทุกครั้งที่ไปอีกครั้งก็เหมือนได้เจอสินค้าใหม่ ๆ อยู่ตลอดเลยอย่างไรก็ผ่านสถานีโตเกียวอย่าลืมแวะนะคะ
【?】ANGERS bureau KITTE สาขา Marunouchi
【?】เดินจากสถานีโตเกียว 1 นาที Tokyo Metro Chidoya line ลงสถานี Nijigashigee ประมาณ 4 นาที ถ้ามาจาก Metropolitan Mita line ลงสถานี Otemachi เดิน 4 นาที
【?】11:00~21:00 (วันอาทิตย์กับวันหยุดพิเศษปิดตอน 20:00)
【?】https://www.angers.jp/
『DELFONICS Shibuya』
〒Shibuya
รูปภาพจาก : http://www.delfonics.com
มากันที่ร้านสุดท้ายของวันนี้ ร้าน DELFONICS Shibuya ตั้งอยู่ที่ชั้นแรกสุดของห้างค้าปลีก Shibuya PARCO เป็นร้านเครื่องเขียนที่หลายคนคิดว่าเป็นร้านนำเข้าจากต่างประเทศ แต่จริง ๆ แล้วร้านนี้เป็นแบรนด์ที่เกิดในโตเกียวช่วง 1980 ค่ะ และร้านแรกที่มาเปิดที่ Shibuya แห่งนี้ (ก็ร้านนี้นั่นแหละค่ะ) ก็เปิดมาตั้งแต่ 1997 แล้วด้วย ห้างค้าปลีกอย่างพวก 『LAMY』『RHODIA』『KAWECO』『BRAUN』เองก็นำของแบรนด์นี้ไปวางเช่นกันค่ะ
รูปภาพจาก : http://jiyukenkyusha.com
ของขึ้นชื่อที่นี่ก็อย่าง "Rollbahn" ก็มีเป็นซีรีย์ ราคาตั้งแต่เล่มละ 270~1,296 เยน มีขนาด แบบ และสีสันมากกว่า 13 สีของ Color Variations ที่มีปกที่ทนทาน อีกทั้งตัดมุมมนรอบ ๆ ไม่ทำร้ายกระเป๋าและของที่อยู่ในกระเป๋าค่ะ แถมบางรุ่นยังมีพวก Card Case อยู่ที่หน้าปกในเหมาะสำหรับใส่ตั๋วหรือการ์ดเล็ก ๆ ไว้พกพาด้วย และทุกหน้าของสมุดโน๊ตก็จะมีการทำรอยปรุเอาไว้เพื่อให้สามารถฉีกให้คนอื่นได้ด้วยค่ะ เผื่อเวลาจดอะไรแล้วจะส่งต่อให้คนอื่นก็ง่าย การออกแบบที่เรียบง่าย เน้นการใช้งานง่ายนั้นถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์นี้เลยค่ะ (เราเองก็ใช้เหมือนกันราคาแรงแต่กระดาษดีมากค่ะ แล้วก็ใช้สะดวกมากด้วย)
รูปภาพจาก : yoshimo.xsrv.jp/gotouchi-bunbougu
ในปี 2011 ที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์ Louvre ในปารีสได้ทำการออกแบบสมุดร่วมกับแบรนด์นี้เพื่อวางขายในจุดขายของฝากในพิพิฒภัณฑ์ค่ะ เป็นของที่ใช้คำว่า「ความเป็นญี่ปุ่น」เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในโตเกียวที่เราพอจะให้ความหวังในการส่งออกและพัฒนาได้อีกไกลค่ะ นอกจากนี้ในร้านยังมีบริการห่อของขวัญให้ด้วยนะคะ มีทั้งกระดาษและแบบการห่อให้เลือกมากมายเลย ใครที่ยังไม่ได้ของฝากหรือของขวัญดี ๆ ไปแวะที่นี่ได้ค่ะ
【?】DELFONICS Shibuya
【?】เดินจากสถานี Shibuya ประมาณ 5 นาที
【?】10:00~21:00
【?】http://www.delfonics.com/top.html
【?】03 3477 5949
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 5 ร้านที่นำมาแนะนำกันวันนี้ เราว่าน่าสนใจมากๆ เลยทั้งแบรนด์ของยุโรปและแบรนด์ของญี่ปุ่นเอง ส่วนตัวเราก็ใช้อยู่หลายอย่างที่ได้เขียนขิงไปบางอันก็เพิ่งรู้ว่าเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น อย่างที่ได้เกริ่นไปว่า Entry นี้ราคาแรงเกือบทั้งนั้น แต่รับรองว่ามันฟินมากค่ะ เรากล้าประกันสมุดบางอย่างที่ราคาแรงคือเรื่องคุณภาพกระดาษเลย ต่างสุด ๆ ความฟินที่ปาดอะไรลงไปก็ไม่ซึม กระดาษไม่เล่นลูกคลื่นนี้คุ้มค่าสุด ๆ นะคะ ปากกาที่จับพอดีมือเขียนไม่สะดุดก็เช่นกัน อย่าให้เราป้ายยาคุณมากไปกว่านี้เลยค่ะ เดี๋ยวเราไปซื้อไม่ทันของหมดก่อน -w-) อย่างไรก็รอ Entry หน้านะคะว่าเราจะพาไปที่ไหน ไปล้มละลายกับอะไรอีก รับรองว่าเด็ดไม่แพ้กันเลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.timeout.jp/tokyo/ja/shopping/stationery
ร่ายมายาวมากเรื่องของเรื่องก็คือวันนี้จะมาเปิด Map ร้านเครื่องเขียนในญี่ปุ่นที่เป็นร้านนำเข้า VS ร้านที่เป็น Original Brand ค่ะ เพื่อให้รองรับทุกคนที่กำลังตั้งเป้าจะไป Shop เครื่องเขียนได้ลงกันถูกสถานี ว่าแล้วก็ตามมาเลยค่ะ o(≧v≦)o
★ หมวดร้านนำเข้า ★
『 SCOS 』
〒Hongo
รูปภาพจาก : http://www.todaishimbun.org/scos_1/
มากันที่ร้านของนำเข้าร้านแรกเลยค่ะ ร้าน SCOS ร้านนี้เป็นร้านเครื่องเขียนนำเข้าที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย Hongo ในโตเกียวค่ะ ร้านนี้จะเน้นการนำเข้าเครื่องเขียนจากยุโรปโดยเฉพาะเครื่องเขียนเยอรมันนี (ซึ่งดีมาก ๆ ในแง่คุณภาพค่ะ) อย่างเช่นพวกยี่ห้อ Schneider อะไรพวกนี้ค่ะ
รูปภาพจาก : http://northfox.cocolog-nifty.com/stationery/2013/04/scos-4b5b.html
โดยรวมแล้วเครื่องเขียนที่ร้านนี้จะค่อนข้างมีสีสันหลากหลายเหมาะกับการเรียนสมกับที่ตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัย รวมถึงพวกกระดาษและสมุดระดับคุณภาพดีที่นำเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่มีหมดสต็อก และทุกชิ้นยังเป็นของที่คัดเลือกโดยตัวเจ้าของร้านเองด้วยค่ะ เป็นร้านที่แม้ว่าจะเปิดมา 15 ปีเต็มไม่มีวันหยุดแล้วแต่ก็ยังไม่มีวันไหนที่ของจะหมดสต็อกไปจากร้านเลย ยังคงมีมาเติมเรื่อย ๆ
View this post on Instagram
สมุดยี่ห้อดังจากเยอรมันอย่าง 『Herlitz A5 Soft Note』ราคาประมาณ 648 เยน ปากกาอย่าง 『Schneider Slider TouchXB』ที่ปล่อยในปี 2015 ก็สนราคาประมาณ 399 เยน ที่จริงแล้วของในร้านนี้ที่เลือกมาวางแต่ละอย่างเนี่ยจะติดเป็นของคลาสสิคอย่างพวกของที่ดีไซน์และใช้กันมาแล้วกว่า 10 ปีและยังคงใช้ได้อยู่
รูปภาพจาก : http://northfox.cocolog-nifty.com/stationery/2013/04/scos-4b5b.html
และของจำพวกเน้นคุณภาพอย่างพวกสมุดของ Herlitz เองก็มีแบบที่มีความจุกระดาษถึง 150 หน้า ทั้งแบบกริดและแบบเส้นบรรทัดแนวนอน นอกจากนี้ยังมีการตัดมุมสมุดให้โค้งมนให้มันไม่ทำร้ายกระเป๋าอีกด้วย
รูปภาพจาก :
http://ilove.cat/ja/5870
ช่วงหลัง ๆ มานี้ก็มีการนำเข้า Touch Pen สำหรับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และแท็บเลตที่เป็นทรงคล้ายกับปากกาลูกลื่นธรรมดา ของพวกนี้มีน้ำหนักเบาและสามารถพกไปได้ทุกที่อย่างสะดวกสะบาย นอกจากนี้ยังมี 『Gollnow Paper Creations』เป็นพวกกระดาษการ์ดสามมิติรูปสัตว์ที่นำเข้าจากเยอรมันด้วย เป็นร้านที่เน้น Quality จริงๆ นะคะ อย่างไรถ้าใครผ่านไปแถวนั้นก็อย่าลืมแวะเข้าไปดูกันได้ค่ะ ของพวกนี้ซื้อแล้วคุ้มค่าแน่นอน
【?】SCOS
【?】Tokyo Metro Marunouchi line หรือ Toei Oedo line มาลงสถานี Hongo Sanchome เดิน 5 นาที
【?】11:00~18:00
【?】http://www.scos.gr.jp/
【?】-
『Shosaikan』
〒Aoyama
รูปภาพจาก : http://shumibun.jp
มาต่อกันที่ร้านขายเครื่องเขียนอยู่ในซอยเงียบ ๆ หลังถนนเก่าย่านอาโอยาม่ากันค่ะ หลังจากเดินผ่านสวนเล็ก ๆ กับพิพิธภัณฑ์เงียบ ๆ ที่กระจายตัวอยู่แถวนั้นแล้วก็ลองแวะมาดูร้านปากกาหัวแร้งกันหน่อยเป็นไงคะ ปากกาหัวแร้งหรือ Fountain Pen ที่สวยงามถูกจัดวางอยู่บนชั้นสไตล์โชวะ บรรยากาศในร้านที่ละเมียดละไม และหรูหราบรรยากาศเก่า ๆ ของโต๊ะนักเรียนโบราณที่วางกระดาษเอาไว้ให้ได้ลองกัน
รูปภาพจาก : http://www.boq.jp
ปากกาหัวแร้งที่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ใช้กันอย่างแพร่หลายเสียเท่าไหร่ใช่มั้ยล่ะคะ แต่ถ้าได้ลองเขียนแล้วเนี่ยเราว่าไม่ธรรมดาเลยนะคะ เพราะทุกวันนี้เราอยู่ในบรรยากาศที่ค่อนข้างจะเร่งรีบตลอดเวลา การเขียนปากกาหัวแร้งนั้นจัดเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งเวลาและความละเมียดละไมเลยไม่ค่อยใช้กัน แต่เพราะจุดประสงค์ของร้าน ก็คือ "ห้วงเวลาของผู้ใหญ่" จึงทำให้ร้านนี้มีบรรยากาศที่ดูสุขุมคลาสสิคขึ้นมาค่ะ
รูปภาพจาก : timeout.com
ร้านนี้จัดตั้งขึ้นในปี 1982 ในช่วงนั้นปากกา "Delta" ของอิตาลีดังมากค่ะ โดยเฉพาะรุ่น "Dolce Vita Medium Original" ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 86,400 เยน ด้วยฟีลลิ่งรูปร่างของปากกาที่มีสีคล้ายกับแสงอาทิตย์บนท้องฟ้าในอิตาลีตอนใต้ที่สว่างเป็นสีส้มของเต็มไปด้วยพลัง และแต่ละด้ามนั้นช่างฝีมือในยุคนั้นตั้งใจทำทีละชิ้นหล่อด้วยเรซิ่นให้ออกมาเป็นด้ามที่สวยงามสดใสดูคลาสสิคทำให้ลวดลายข้างตัวปากกานั้นต่างกันไป จึงทำให้ปากกาแต่ละด้ามนั้นเป็นชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น
View this post on Instagram
การออกแบบที่มีคุณภาพสูงและงดงามแบบ 'Made in Itaty' นั้นได้รับความนิยมกันมากในหมู่ผู้ชายผู้บริหารที่ต้องใช้ในการเซ็นต์ชื่อบ่อย ๆ ราคาปากกาพวกนี้มีตั้งแต่ราคา 10,000 เยนไปจนถึง 100,000 เยน และยังมีกลุ่ม Limited Edition ของแรร์หายากอีกกว่า 3,000 ชิ้น (ที่อยู่ในตู้นั่นแหละค่ะ) อย่างพวกปากกาที่ออกแบบตามคาแรคเตอร์ของนักกีฬาชื่อดังหรือพวกนักดนตรีในตำนานบางชิ้นนั้นราคาพุ่งไปถึง 2.5 ล้านเยน (กุมอกแน่น) เอาจริง ๆ ทางเราว่าร้านนี้ดีสำหรับคนที่ไปหาของขวัญให้ผู้ใหญ่หรือใครสักคนในวันสำคัญนะคะ ปากกาเซนต์ชื่อนี่ที่หนึ่งเลยค่ะสำหรับของขวัญ แต่ก็ราคาแรงตามคุณภาพเนอะเพราะของพวกนี้มันออกแนวของสะสมหน่อย ๆ ด้วย ยังไงก็ลองไปเยี่ยมชมกันได้ค่ะ
【?】Shosaikan
【?】Tokyo Metro Ginza line / Chidoya line / Hanzomon line สถานี Omotesando เดิน 5 นาทีค่ะ
【?】11:00~20:00
【?】http://www.shosaikan.co.jp/
【?】03-3400-3377
『 Giovanni สาขา Kichijoji 』
〒Kichijoji
รูปภาพจาก : kichijoji-nakamichi.com
มาต่อกันที่ร้านเครื่องเขียนนำเข้าอีกร้านค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่ใจกลางถนนย่าน Kichijoji เป็นร้านที่เต็มไปด้วยเครื่องเขียนและเครื่องใช้จากยุคขุนนางและยุคเล่นแร่แปรธาตุของยุโรปเลยค่ะ *★.• ·* มีตั้งแต่พวกปากกาขนนกของดันเต้ (คือของที่ดันเต้ใช้เองเลย) ไปจนของของแรร์อย่างพวกของสะสมของครอบครัว Medici เริ่มแปลกใจแล้วใช่มั้ยคะ ที่นี่ไม่เชิงเป็นร้านเครื่องเขียนหรอกค่ะ เรียกขุมสมบัติเหมาะกว่า (ฮ่า)
รูปภาพจาก : timeout.com
ซึ่งของแต่ละชิ้นเนี่ยเจ้าของร้านบินไปซื้อมาเองจากอิตาลีเลยนะคะ ทั้งพวกของ Stamps Sealers ปากกาขนนก สมุดสะสมของต่าง ๆ กระดาษ Parchment ทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เป็นของแรร์จากยุโรปเลยค่ะ เวลาไปเดินมันก็เหมือนกับผ่านพิพิธภัณฑ์สุด ๆ โบราณสุด ๆ ของในร้านนี้ส่วนใหญ่จะมี "Made in EU" แปะอยู่เป็นเครื่องประกันค่ะ เพราะฉะนั้นก็เหมาะกับคนที่ชอบเครื่องเขียนจากยุโรปและร้านนี้ก็เป็นร้านที่ฮิตในหมู่ชาวเอเชียที่ชื่นชอบของจากยุโรปยุคกลางเหมือนกันค่ะ (พวกคอสะสมของก็มาเยอะค่ะ)
รูปภาพจาก : akamaized.net
ของขึ้นชื่อของร้านคือ 『ルネサンスシール』(Renaissance Seal) ราคาประมาณ 6,480 เยนค่ะ เป็นของที่นำไอเดียมาจากงานแกะสลักในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ที่ในยุคนั้นการใช้ตราประทับพวกนี้จะมีแค่กลุ่มอัศวินและพวกในสภาเท่านั้นที่จะใช้ได้ คนบ้าน ๆ ชั้นแรงงานไม่มีสิทธิ์ใช้นะคะ ใครอยากจะทดลองเป็นชนชั้นสูงในยุคเรเนซองดูก็ลองซื้อมาใช้ Stamp Seal จดหมายดูค่ะ
View this post on Instagram
Original Product ของร้านนี้เป็นของที่มาจากอิตาลีเท่านั้นนะคะ บรรยากาศในร้านไม้แบบโบราณทำให้รู้สึกฟีลกู้ดสุด ๆ ไหนจะปากกาขนนกตัวซีลจดหมาย ถ้าใครเป็นนักเรียนฮอกวอตส์แล้วล่ะก็ลองมาซื้อของจากร้านนี้ดูค่ะ แม้จะไม่มีปากกาจดทันใจแบบของริต้า สกีตเตอร์ แต่ก็มีหลายอย่างให้ได้เลือกสรรค์ไปใช้ในเทอมหน้าได้นะคะ (ฮ่า) ถ้าไปร้านนี้เป็นครั้งแรกแล้วยังไม่รู้จะเริ่มซื้ออะไรให้ลองซื้อ "Gift set" ดูราคาจะประมาณ 2,700 เยน เป็นตัวแสตมป์กับ Wax Set สำหรับผู้เริ่มต้นค่ะ ที่จริงร้านนี้รับทำตราประทับของตัวเองด้วยนะคะ สั่งได้ค่ะ
【?】 Giovanni สาขา Kichijoji
【?】JR sobu line / Chuo line / Keio Inokashira line ลงสถานี 吉祥寺(Kichijoji) เดินประมาณ 10 นาที
【?】11:00~20:00
【?】https://www.giovanni.jp/
【?】0422 20 0171
★ หมวดร้านแบรนด์ญี่ปุ่น ★
『ANGERS bureau KITTE สาขา Marunouchi』
〒Marunouchi
รูปภาพจาก : timeout.com
มากันที่โหมดร้าน Made in Japan กันบ้างค่ะ หลังจากไปร้านผู้ใหญ่ ๆ เอาใจสายยุโรปมาแล้ว ก็ขอวนกลับมาเอาใจวัยเรียนวัยใสกันบ้าง เพราะว่าในร้าน ANGERS bureau KITTE สาขา Marunouchi เนี่ยเป็นร้านที่รวบรวมของสำหรับ "ห้องเขียนหนังสือ" เอาไว้เลยค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่หน้าสถานีโตเกียวเลยหาไม่ยากแน่นอน ที่จริงก่อนหน้านี้ร้านนี้เป็นร้านที่ดังเรื่องของจุกจิกเบ็ดเตล็ดในเกียวโตค่ะ
รูปภาพจาก : http://www.fhb-watch.com
ภายในร้านมีบรรยากาศเป็นร้านไม้ที่ดูค่อนข้างจะหรูหราพอตัวค่ะ ในแต่ละชั้นก็อัดแน่นไปด้วยเครื่องเขียนที่เป็นของทั้งผู้ใหญ่และนักเรียนนักศึกษา รวมถึงยังมีโซนของเบ็ดเตล็ดจำพวกของบนโต๊ะทำงาน หรือพวกกลุ่มหนังสือ Pocket Book ที่นิยมไว้อ่านบนรถไฟอะไรพวกนั้นด้วยค่ะ และก็เป็นเพราะว่าตั้งอยู่ที่หน้าสถานีโตเกียวเลยทำให้คนค่อนข้างจะพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลาค่ะ
รูปภาพจาก : timeout.com
ร้านนี้เป็นร้านที่มีดินสอ "Varacil" ราคาประมาณ 972 เยน เป็นเครื่องเขียน 「Made in Japan」ที่ค่อนข้างแปลกใหม่ เพราะเป็นดินสอที่เหมือนพวกของเล่นโมเดลที่นำมาประกอบกันค่ะ เอาเข้าจริงแล้วเทรนด์การออกแบบเครื่องเขียนของญี่ปุ่นชิ้นนี้จะออกแนวเป็นเครื่องเขียนเพื่อความบันเทิงด้วยค่ะ คุณสามารถจะเล่นซ้ำ ๆ แกะใหม่ประกอบใหม่ได้อยู่อย่างนั้นทำให้ดินสอธรรมดาดูไม่ธรรมดาอีกต่อไป ของพวกนี้ก็เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติเช่นกัน
รูปภาพจาก : http://angers-kyoto.blogspot.com/2015/07/
นอกจากนี้เรายังของแนะนำ Tool Box ที่ทำจากไม้ดูหรูหรา ที่เมื่อเปิดออกมาจะแสดงให้เห็นอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในได้อย่างชัดเจนสะดวกต่อการใช้ค่ะ ส่วนอันนี้ก็ "Original Tool box" ราคาอยู่ที่ 23,760 เยน ซึ่งสั่งทำจากร้านเฟอร์นิเจอร์ STANDARD TRADE เลยนะคะ ถ้าเอาวางบนโต๊ะเนี่ยยกระดับความดูดีของโต๊ะทำงานได้เลย
รูปภาพจาก : asoview.com
ส่วนสินค้าอื่น ๆ ในร้านโดยเฉพาะมุม Souvenir เนี่ยก็จะเป็นผลิตภัณฑ์จากกระดาษเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ที่มีราคาประมาณ 1,000 เยนหรือต่ำกว่านั้น ในกรณีที่งบมีจำกัดแล้วล่ะก็ ก็ยังสามารถที่จะซื้อเป็นของฝาก Made in Japan ที่ดูดีได้อยู่นะคะ เราเลยลองเข้าไปแล้วเป็นร้านที่มีเสน่ห์มาก ๆ เลย อีกอย่างหนึ่งก็คือจะมีการจัดแต่งร้านใหม่ทุกเดือนด้วยค่ะ ทุกครั้งที่ไปอีกครั้งก็เหมือนได้เจอสินค้าใหม่ ๆ อยู่ตลอดเลยอย่างไรก็ผ่านสถานีโตเกียวอย่าลืมแวะนะคะ
【?】ANGERS bureau KITTE สาขา Marunouchi
【?】เดินจากสถานีโตเกียว 1 นาที Tokyo Metro Chidoya line ลงสถานี Nijigashigee ประมาณ 4 นาที ถ้ามาจาก Metropolitan Mita line ลงสถานี Otemachi เดิน 4 นาที
【?】11:00~21:00 (วันอาทิตย์กับวันหยุดพิเศษปิดตอน 20:00)
【?】https://www.angers.jp/
『DELFONICS Shibuya』
〒Shibuya
รูปภาพจาก : http://www.delfonics.com
มากันที่ร้านสุดท้ายของวันนี้ ร้าน DELFONICS Shibuya ตั้งอยู่ที่ชั้นแรกสุดของห้างค้าปลีก Shibuya PARCO เป็นร้านเครื่องเขียนที่หลายคนคิดว่าเป็นร้านนำเข้าจากต่างประเทศ แต่จริง ๆ แล้วร้านนี้เป็นแบรนด์ที่เกิดในโตเกียวช่วง 1980 ค่ะ และร้านแรกที่มาเปิดที่ Shibuya แห่งนี้ (ก็ร้านนี้นั่นแหละค่ะ) ก็เปิดมาตั้งแต่ 1997 แล้วด้วย ห้างค้าปลีกอย่างพวก 『LAMY』『RHODIA』『KAWECO』『BRAUN』เองก็นำของแบรนด์นี้ไปวางเช่นกันค่ะ
รูปภาพจาก : http://jiyukenkyusha.com
ของขึ้นชื่อที่นี่ก็อย่าง "Rollbahn" ก็มีเป็นซีรีย์ ราคาตั้งแต่เล่มละ 270~1,296 เยน มีขนาด แบบ และสีสันมากกว่า 13 สีของ Color Variations ที่มีปกที่ทนทาน อีกทั้งตัดมุมมนรอบ ๆ ไม่ทำร้ายกระเป๋าและของที่อยู่ในกระเป๋าค่ะ แถมบางรุ่นยังมีพวก Card Case อยู่ที่หน้าปกในเหมาะสำหรับใส่ตั๋วหรือการ์ดเล็ก ๆ ไว้พกพาด้วย และทุกหน้าของสมุดโน๊ตก็จะมีการทำรอยปรุเอาไว้เพื่อให้สามารถฉีกให้คนอื่นได้ด้วยค่ะ เผื่อเวลาจดอะไรแล้วจะส่งต่อให้คนอื่นก็ง่าย การออกแบบที่เรียบง่าย เน้นการใช้งานง่ายนั้นถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์นี้เลยค่ะ (เราเองก็ใช้เหมือนกันราคาแรงแต่กระดาษดีมากค่ะ แล้วก็ใช้สะดวกมากด้วย)
รูปภาพจาก : yoshimo.xsrv.jp/gotouchi-bunbougu
ในปี 2011 ที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์ Louvre ในปารีสได้ทำการออกแบบสมุดร่วมกับแบรนด์นี้เพื่อวางขายในจุดขายของฝากในพิพิฒภัณฑ์ค่ะ เป็นของที่ใช้คำว่า「ความเป็นญี่ปุ่น」เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในโตเกียวที่เราพอจะให้ความหวังในการส่งออกและพัฒนาได้อีกไกลค่ะ นอกจากนี้ในร้านยังมีบริการห่อของขวัญให้ด้วยนะคะ มีทั้งกระดาษและแบบการห่อให้เลือกมากมายเลย ใครที่ยังไม่ได้ของฝากหรือของขวัญดี ๆ ไปแวะที่นี่ได้ค่ะ
【?】DELFONICS Shibuya
【?】เดินจากสถานี Shibuya ประมาณ 5 นาที
【?】10:00~21:00
【?】http://www.delfonics.com/top.html
【?】03 3477 5949
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 5 ร้านที่นำมาแนะนำกันวันนี้ เราว่าน่าสนใจมากๆ เลยทั้งแบรนด์ของยุโรปและแบรนด์ของญี่ปุ่นเอง ส่วนตัวเราก็ใช้อยู่หลายอย่างที่ได้เขียนขิงไปบางอันก็เพิ่งรู้ว่าเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น อย่างที่ได้เกริ่นไปว่า Entry นี้ราคาแรงเกือบทั้งนั้น แต่รับรองว่ามันฟินมากค่ะ เรากล้าประกันสมุดบางอย่างที่ราคาแรงคือเรื่องคุณภาพกระดาษเลย ต่างสุด ๆ ความฟินที่ปาดอะไรลงไปก็ไม่ซึม กระดาษไม่เล่นลูกคลื่นนี้คุ้มค่าสุด ๆ นะคะ ปากกาที่จับพอดีมือเขียนไม่สะดุดก็เช่นกัน อย่าให้เราป้ายยาคุณมากไปกว่านี้เลยค่ะ เดี๋ยวเราไปซื้อไม่ทันของหมดก่อน -w-) อย่างไรก็รอ Entry หน้านะคะว่าเราจะพาไปที่ไหน ไปล้มละลายกับอะไรอีก รับรองว่าเด็ดไม่แพ้กันเลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.timeout.jp/tokyo/ja/shopping/stationery