ขี่อูฐ ชมวิว กินปู ที่ทตโตะริ ประเทศญี่ปุ่น อ่านไม่ผิดค่ะ เพราะที่ทตโตะริมีอย่างที่เราได้กล่าวไว้ทั้งหมดเลย เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปสำรวจเมืองทตโตะริกันเลยค่ะ
ทตโตะริ จังหวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่มีประชากรอยู่น้อย และด้วยเพราะที่มีประชากรอยู่น้อยนี่แหละค่ะ จึงทำให้การเดินทางสู่ทตโตะริอาจจะไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่รับรองว่าคุมค่ากับการไปเยือนแน่นอนค่ะ เพราะถ้าใครที่ชอบท่องเที่ยวแบบชิว ๆ ไม่เร่งรีบแล้วละก็ต้องที่ทตโตะริค่ะ
บอกเล่ากันมาขนาดนี้ บางท่านอาจจะยังนึกไม่ออกว่าทตโตะริจะมีอะไรให้ท่องเที่ยว แต่ถ้าบอกว่า คุณจะได้สัมผัสกับบ้านเกิดของนักเขียนการ์ตูนแนวสืบสวนสอบสวนอย่างเรื่อง “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” เพราะที่นี่มี พิพิธภัณฑ์อาโอยาม่า โกโช ฟุรุซาโต (Gosho Aoyama Manga Factory) พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานของอาจารย์อาโอยาม่า โกโช ที่มีผลงานต่าง ๆ มากมายอย่างที่เรา ๆ ท่านๆ รู้จักกันดีก็คือ ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน, จอมโจรคิด เป็นต้น
ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดมุมแสดงอุปกรณ์ที่ตัวการ์ตูนอย่างโคนันใช้ อาทิ รองเท้าเพิ่มพลังเตะ, เข็มขัดยิงลูกบอล เป็นต้น รวมถึงการจำลองมุมโต๊ะทำงานของอาจารย์อาโอยาม่าให้ได้ชมกันอีกด้วย ก่อนกลับยังมีมุมภาพกลไกสามมิติให้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือจะไปเดินเล่นที่ถนนโคนัน หรือ โคนันโร้ด และแวะถ่ายภาพคู่กับรูปหล่อสำริดของตัวละครในเรื่อง ก็เก๋ไปอีกแบบค่ะ
หรือใครอยากสัมผัสใกล้ชิดกับเหล่าปีศาจน้อยจากการ์ตูนแนวลึกลับ เหนือธรรมชาติ อย่างเรื่อง “อสูรน้อยคิทาโร่” ต้องที่ถนนมิซึกิชิเงรุ (Mizuki Shigeru Road) เพราะเราจะได้พบเห็นเล่าภูตที่ซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่างๆของถนนที่ทอดยาวถึง 800 เมตร บนถนนเส้นนี้ยังมีร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านขนม ซึ่งจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับเหล่าปีศาจให้ละลายทรัพย์กันอีกด้วย
หลังจากสวมวิญญาณนักสืบและตามหาเหล่าปีศาจน้อยกันไปแล้ว คราวนี้เราจะไปขี่อูฐกันค่ะ เพราะที่นี่มีเนินทรายทตโตะริ เขตดินทรายขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดิมทีเนินทรายนั้นอยู่ใต้ทะเล แต่เมื่อระดับน้ำทะเลลดลงเรื่อย ๆ จึงเกิดเป็นดินทราย ที่บวกกับทรายจำนวนมากจากทะเลญี่ปุ่นซึ่งพัดขึ้นมาเกยทับถมกันและจากแรงลมที่ดันทรายขึ้นมาจากทะเลมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นจุดกำเนิดของเนินทรายทตโตะริ ที่มีความหนาของเนินทรายราว 50 เมตร ซึ่งอีกด้านหนึ่งของเนินทราย เราจะพบกับทะเลสวยน้ำใสที่รอให้เราได้ยลโฉมอยู่อีกด้วยค่ะ
และที่เนินทรายทตโตะริแห่งนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกันมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ การขี่อูฐชมวิวทิวทัศน์สวยๆของเนินทราย เราจะมองเห็นเนินทรายในมุมที่สูงขึ้นมาอีกนิดบนหลังน้องอูฐ หรือใครไม่ถนัดขี่อูฐ ที่นี่ก็มีจักรยาน Fat bike จักรยานที่มีหน้ายางและล้อขนาดใหญ่ 3.7 นิ้วขึ้นไป ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ขี่บนพื้นทราย ดินลูกรัง ดินโคลน หรือพื้นผิวหิมะ มีให้เช่าขี่ปั่นชมวิวบนเนินทรายด้วย แต่หากใครที่ชอบความท้าทายและความหวาดเสียว เรามีอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะทำให้อะดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีด นั่นคือ การเล่นพาราไกลเดอร์ ที่ลอยละลิ่วไปบนท้องฟ้าพลางชมวิวสวย ๆของเนินทรายทตโตะริและทะเลที่อยู่ข้าง ๆ กันได้ สายผจญภัยต้องห้ามพลาดค่ะ
เที่ยวเนินทรายหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นกันไปแล้ว ต่อไปเราจะไปขึ้นภูเขากันค่ะ ภูเขามิโตคุ แต่ไม่ใช่ภูเขาธรรมดานะคะ เพราะบนภูเขาแห่งนี้บริเวณของขอบหน้าผาเป็นที่ตั้งของวัดซัมบุตสึ (Sanbutsuji) วัดนิกายเทนได ที่ตั้งอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลที่ 525 เมตร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เดินทางเข้าถึงได้ค่อนข้างยาก เพราะการเดินทางในช่วงสิบนาทีแรกจะเป็นเส้นทางเดินปกติ ระหว่างทางขึ้นมีจุดพักให้นักท่องเที่ยวได้แวะพักและชมวิวสวย ๆ กันถึงสองช่วง แต่หลังจากนั้นจะเป็นช่วงการเดินทางที่ลำบากขึ้น ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ถึงเพียงแค่บริเวณของหน้าวัดเท่านั้นค่ะ
เดินเที่ยวภูเขา ชมวิวแปลกตากันที่วัดซัมบุตซึกันไปแล้ว เรามาต่อกันที่ทตโตะริ ฮานะไคโร (Tottori Hanakairo) สวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เป็นสวนดอกไม้ที่มีดอกไม้ถึงกว่า 400 สายพันธุ์ จำนวนกว่า 2 ล้านต้น ที่จะบานสะพรั่งแข่งกันในแต่ละช่วงฤดู เรียกได้ว่าที่สวนดอกไม้แห่งนี้จะมีดอกไม้บานสร้างความสดใสกันตลอดทั้งปี แถมในแต่ละปี สวนดอกไม้แห่งนี้จะมีการจัดแสดงแสงสีตามธีมประกอบกับดอกไม้ เพื่อเพิ่มสีสันให้กับสวนดอกไม้
และหากใครที่ชอบเก็บภาพสวยๆ ที่ทตโตะริ ฮานะไคโร ก็มีมุมสวยให้ถ่ายรูปกันด้วย เพราะเมื่อมองไกลออกไป เราจะเจอภูเขาไดเซน (Daisen) ซึ่งเป็นฉากหลังให้กับสวนดอกไม้แห่งนี้ได้อย่างสวยงาม ซึ่งไดเซน เป็นภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ และยังถูกขนานนามว่าเป็นภูเขาไฟฟูจิแห่งตะวันตกอีกด้วย โอ้โห เที่ยวสวนดอกไม้ แถมยังได้ชมวิวของคู่แฝดภูเขาไฟฟูจิไปพร้อม ๆ กันได้แบบนี้ หาได้ที่ทตโตะรินะคะ
เปิดทริปสำรวจจังหวัดทตโตะริ แบบเที่ยวหนักมากกันไปแล้ว ช่วงเวลาต่อไปนี้ เราก็ต้องเติมพลังด้วยอาหารการกินกันค่ะ เริ่มกันที่เมนูกิวโคสึราเมง (Gyukotsu ramen) ราเมงซุปกระดูกวัว ซุปน้ำใสจากการเคี่ยวนานถึง 20 ชั่วโมง ให้รสชาติที่เข้มข้นและออกรสหวานชวนให้ซดจนหมดชาม หรือใครที่ชอบอาหารทะเล ที่ทตโตะริก็มีเช่นกันค่ะ อย่าง กุ้งโมสะ (Mosa ebi) กุ้งมายาแห่งทตโตะริ ด้วยตัวของเนื้อกุ้งให้รสสัมผัสที่นุ่มเด้งและมีรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ของกุ้งโมสะ ซึ่งมีรสชาติที่หวานมากกว่ากุ้งอามะ และที่สำคัญ หากต้องการนำกุ้งโมสะออกไปรับประทานกันนอกจังหวัด ทตโตะริ หรือในพื้นที่ที่ไกลออกไปแล้วละก็ เนื้อของกุ้งโมสะจะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ไม่ชวนกิน จึงเป็นที่มาของกุ้งมายา เพราะเราจะสามารถกินกุ้งโมสะได้อร่อยที่สุดต้องกินที่จังหวัดทตโตะริที่เดียวเท่านั้นค่ะ! และอีกเมนูพระเอกของทริปนี้ที่อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองคือ เมนูที่เกี่ยวกับปูค่ะ เพราะที่ทตโตะรินี้นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนสามารถรับประทานปูได้ตลอดทั้งปี ขนาดที่ว่ามีการเล่นคำให้ชื่อจังหวัดทตโตะริว่าเป็น “จังหวัดคานิโตะริ” (คานิ แปลว่า ปู, โทริ แปลว่า จับ) กันเลยทีเดียว เพราะความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารของปูในท้องทะเล จึงทำให้เนื้อปูในจังหวัดทตโตะริมีเนื้อแน่นเป็นพิเศษมากกว่าที่อื่น และปูที่ขึ้นชื่อของทตโตะริ นั่นคือปูซูไว (Zuwai kani) ที่สามารถรับประทานกันได้ตลอดทั้งปี หากใครได้ไปทตโตะริขอแนะนำเมนูสารพัดปูเลยนะคะ รับรองว่าคุณจะลืมปูทุกที่ที่คุณเคยกินไปเลยค่ะ
พักผ่อนจากการท่องเที่ยวและเติมพลังกันจนเต็มอิ่มแล้ว ธรรมเนียมปิดทริปค่ะ นั่นคือการหาซื้อของฝากกลับบ้านเป็นระลึกกัน มาเริ่มกันที่ เครื่องปั้นดินเผา ที่ถูกรังสรรค์โดยช่างปั้นหม้อแห่งทตโตะริ ที่กลั่นความคิดออกเป็นงานดีไซน์เครื่องปั้นดินเผาที่สามารถนำไปจัดเข้ากับอาหารได้ในทุกรูปแบบ แต่หากใครอยากได้ของฝากที่เป็นขนมแล้วละก็ เราขอแนะนำ ขนมดังโงะ แห่งสวนอุซึบุกิ ขนมดังโงะเสียบไม้ เรียงตัวสวย จัดอยู่ในกล่องอย่างดี หรือจะเป็น อินาบะโนะ ชิโระอุซางิ ขนมมันจูรูปกระต่ายไส้ถั่วแดง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากว่า 40 ปี และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของจังหวัดทตโตะริ คือ ลูกแพร์พันธุ์ศตวรรษที่ 20 นิจิเซกิ ที่ให้รสชาติที่ออกเปรี้ยวเพียงเล็กน้อย ทำให้กินได้เพลิน ๆ นอกจากจะกินสดแล้วยังมีการนำมาแปรรูปเป็นทั้งเวเฟอร์ไส้ครีมที่ผสมเนื้อลูกแพร์ หรือการทำเป็นเยลลี่ลูกแพร์ เป็นต้น
และอีกหนึ่งในของที่ระลึก ที่ถ้าได้มาถึงทตโตะริแล้วไม่ได้ซื้อกลับบ้าน ก็จะเหมือนกับมาไม่ถึง ทตโตะริ นั่นคือ ของที่ระลึกจากการ์ตูนชื่อดังอย่างเรื่อง “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” ซึ่งขอแนะนำเสื้อยืดที่พิมพ์ลายโคนันซึ่งกำลังขี่อูฐอยู่บนเนินทรายทตโตะริ ซึ่งเป็นลายเอกลักษณ์ของที่นี่ นอกจากนั้นยังมีเครื่องเขียน ขนมคุกกี้ หมวก และของอื่นๆ ที่เป็นลวดลายจากการ์ตูนเรื่องโคนัน หรือจะซื้อขนมที่จับเอาคาแรกเตอร์ของเหล่าปีศาจจากการ์ตูน “อสูรน้อยคิทาโร่” อย่างขนมลูกตาปีศาจ ซื้อกลับไปเป็นของฝากของที่ระทึก ก็จะเรียกเสียงกรี๊ดจากเพื่อน ๆ ได้เลยค่ะ
อื้อหือ งานเที่ยวขี่อูฐ ชมวิว กินปูคราวนี้ มันช่างได้อารมณ์ความว้าว เพราะการได้ขี่อูฐในประเทศญี่ปุ่น ท่องเที่ยวไปในสถานที่ที่แปลกตาและท้าทาย บวกกับการได้รับประทานของอร่อย ๆ ที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ ที่จังหวัดนี้ เพราะที่นี่คือทตโตะริค่ะ อีกหนึ่งจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องมาเที่ยวให้ได้สักครั้งค่ะ
ข้อมูลจาก : https://www.tottori-tour.jp/th/
https://web.facebook.com/tottori.th/
https://matcha-jp.com/th/5485
ทตโตะริ จังหวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่มีประชากรอยู่น้อย และด้วยเพราะที่มีประชากรอยู่น้อยนี่แหละค่ะ จึงทำให้การเดินทางสู่ทตโตะริอาจจะไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่รับรองว่าคุมค่ากับการไปเยือนแน่นอนค่ะ เพราะถ้าใครที่ชอบท่องเที่ยวแบบชิว ๆ ไม่เร่งรีบแล้วละก็ต้องที่ทตโตะริค่ะ
บอกเล่ากันมาขนาดนี้ บางท่านอาจจะยังนึกไม่ออกว่าทตโตะริจะมีอะไรให้ท่องเที่ยว แต่ถ้าบอกว่า คุณจะได้สัมผัสกับบ้านเกิดของนักเขียนการ์ตูนแนวสืบสวนสอบสวนอย่างเรื่อง “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” เพราะที่นี่มี พิพิธภัณฑ์อาโอยาม่า โกโช ฟุรุซาโต (Gosho Aoyama Manga Factory) พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานของอาจารย์อาโอยาม่า โกโช ที่มีผลงานต่าง ๆ มากมายอย่างที่เรา ๆ ท่านๆ รู้จักกันดีก็คือ ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน, จอมโจรคิด เป็นต้น
ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดมุมแสดงอุปกรณ์ที่ตัวการ์ตูนอย่างโคนันใช้ อาทิ รองเท้าเพิ่มพลังเตะ, เข็มขัดยิงลูกบอล เป็นต้น รวมถึงการจำลองมุมโต๊ะทำงานของอาจารย์อาโอยาม่าให้ได้ชมกันอีกด้วย ก่อนกลับยังมีมุมภาพกลไกสามมิติให้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือจะไปเดินเล่นที่ถนนโคนัน หรือ โคนันโร้ด และแวะถ่ายภาพคู่กับรูปหล่อสำริดของตัวละครในเรื่อง ก็เก๋ไปอีกแบบค่ะ
หรือใครอยากสัมผัสใกล้ชิดกับเหล่าปีศาจน้อยจากการ์ตูนแนวลึกลับ เหนือธรรมชาติ อย่างเรื่อง “อสูรน้อยคิทาโร่” ต้องที่ถนนมิซึกิชิเงรุ (Mizuki Shigeru Road) เพราะเราจะได้พบเห็นเล่าภูตที่ซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่างๆของถนนที่ทอดยาวถึง 800 เมตร บนถนนเส้นนี้ยังมีร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านขนม ซึ่งจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับเหล่าปีศาจให้ละลายทรัพย์กันอีกด้วย
หลังจากสวมวิญญาณนักสืบและตามหาเหล่าปีศาจน้อยกันไปแล้ว คราวนี้เราจะไปขี่อูฐกันค่ะ เพราะที่นี่มีเนินทรายทตโตะริ เขตดินทรายขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดิมทีเนินทรายนั้นอยู่ใต้ทะเล แต่เมื่อระดับน้ำทะเลลดลงเรื่อย ๆ จึงเกิดเป็นดินทราย ที่บวกกับทรายจำนวนมากจากทะเลญี่ปุ่นซึ่งพัดขึ้นมาเกยทับถมกันและจากแรงลมที่ดันทรายขึ้นมาจากทะเลมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นจุดกำเนิดของเนินทรายทตโตะริ ที่มีความหนาของเนินทรายราว 50 เมตร ซึ่งอีกด้านหนึ่งของเนินทราย เราจะพบกับทะเลสวยน้ำใสที่รอให้เราได้ยลโฉมอยู่อีกด้วยค่ะ
และที่เนินทรายทตโตะริแห่งนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกันมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ การขี่อูฐชมวิวทิวทัศน์สวยๆของเนินทราย เราจะมองเห็นเนินทรายในมุมที่สูงขึ้นมาอีกนิดบนหลังน้องอูฐ หรือใครไม่ถนัดขี่อูฐ ที่นี่ก็มีจักรยาน Fat bike จักรยานที่มีหน้ายางและล้อขนาดใหญ่ 3.7 นิ้วขึ้นไป ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ขี่บนพื้นทราย ดินลูกรัง ดินโคลน หรือพื้นผิวหิมะ มีให้เช่าขี่ปั่นชมวิวบนเนินทรายด้วย แต่หากใครที่ชอบความท้าทายและความหวาดเสียว เรามีอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะทำให้อะดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีด นั่นคือ การเล่นพาราไกลเดอร์ ที่ลอยละลิ่วไปบนท้องฟ้าพลางชมวิวสวย ๆของเนินทรายทตโตะริและทะเลที่อยู่ข้าง ๆ กันได้ สายผจญภัยต้องห้ามพลาดค่ะ
เที่ยวเนินทรายหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นกันไปแล้ว ต่อไปเราจะไปขึ้นภูเขากันค่ะ ภูเขามิโตคุ แต่ไม่ใช่ภูเขาธรรมดานะคะ เพราะบนภูเขาแห่งนี้บริเวณของขอบหน้าผาเป็นที่ตั้งของวัดซัมบุตสึ (Sanbutsuji) วัดนิกายเทนได ที่ตั้งอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลที่ 525 เมตร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เดินทางเข้าถึงได้ค่อนข้างยาก เพราะการเดินทางในช่วงสิบนาทีแรกจะเป็นเส้นทางเดินปกติ ระหว่างทางขึ้นมีจุดพักให้นักท่องเที่ยวได้แวะพักและชมวิวสวย ๆ กันถึงสองช่วง แต่หลังจากนั้นจะเป็นช่วงการเดินทางที่ลำบากขึ้น ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ถึงเพียงแค่บริเวณของหน้าวัดเท่านั้นค่ะ
เดินเที่ยวภูเขา ชมวิวแปลกตากันที่วัดซัมบุตซึกันไปแล้ว เรามาต่อกันที่ทตโตะริ ฮานะไคโร (Tottori Hanakairo) สวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เป็นสวนดอกไม้ที่มีดอกไม้ถึงกว่า 400 สายพันธุ์ จำนวนกว่า 2 ล้านต้น ที่จะบานสะพรั่งแข่งกันในแต่ละช่วงฤดู เรียกได้ว่าที่สวนดอกไม้แห่งนี้จะมีดอกไม้บานสร้างความสดใสกันตลอดทั้งปี แถมในแต่ละปี สวนดอกไม้แห่งนี้จะมีการจัดแสดงแสงสีตามธีมประกอบกับดอกไม้ เพื่อเพิ่มสีสันให้กับสวนดอกไม้
และหากใครที่ชอบเก็บภาพสวยๆ ที่ทตโตะริ ฮานะไคโร ก็มีมุมสวยให้ถ่ายรูปกันด้วย เพราะเมื่อมองไกลออกไป เราจะเจอภูเขาไดเซน (Daisen) ซึ่งเป็นฉากหลังให้กับสวนดอกไม้แห่งนี้ได้อย่างสวยงาม ซึ่งไดเซน เป็นภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ และยังถูกขนานนามว่าเป็นภูเขาไฟฟูจิแห่งตะวันตกอีกด้วย โอ้โห เที่ยวสวนดอกไม้ แถมยังได้ชมวิวของคู่แฝดภูเขาไฟฟูจิไปพร้อม ๆ กันได้แบบนี้ หาได้ที่ทตโตะรินะคะ
เปิดทริปสำรวจจังหวัดทตโตะริ แบบเที่ยวหนักมากกันไปแล้ว ช่วงเวลาต่อไปนี้ เราก็ต้องเติมพลังด้วยอาหารการกินกันค่ะ เริ่มกันที่เมนูกิวโคสึราเมง (Gyukotsu ramen) ราเมงซุปกระดูกวัว ซุปน้ำใสจากการเคี่ยวนานถึง 20 ชั่วโมง ให้รสชาติที่เข้มข้นและออกรสหวานชวนให้ซดจนหมดชาม หรือใครที่ชอบอาหารทะเล ที่ทตโตะริก็มีเช่นกันค่ะ อย่าง กุ้งโมสะ (Mosa ebi) กุ้งมายาแห่งทตโตะริ ด้วยตัวของเนื้อกุ้งให้รสสัมผัสที่นุ่มเด้งและมีรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ของกุ้งโมสะ ซึ่งมีรสชาติที่หวานมากกว่ากุ้งอามะ และที่สำคัญ หากต้องการนำกุ้งโมสะออกไปรับประทานกันนอกจังหวัด ทตโตะริ หรือในพื้นที่ที่ไกลออกไปแล้วละก็ เนื้อของกุ้งโมสะจะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ไม่ชวนกิน จึงเป็นที่มาของกุ้งมายา เพราะเราจะสามารถกินกุ้งโมสะได้อร่อยที่สุดต้องกินที่จังหวัดทตโตะริที่เดียวเท่านั้นค่ะ! และอีกเมนูพระเอกของทริปนี้ที่อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองคือ เมนูที่เกี่ยวกับปูค่ะ เพราะที่ทตโตะรินี้นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนสามารถรับประทานปูได้ตลอดทั้งปี ขนาดที่ว่ามีการเล่นคำให้ชื่อจังหวัดทตโตะริว่าเป็น “จังหวัดคานิโตะริ” (คานิ แปลว่า ปู, โทริ แปลว่า จับ) กันเลยทีเดียว เพราะความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารของปูในท้องทะเล จึงทำให้เนื้อปูในจังหวัดทตโตะริมีเนื้อแน่นเป็นพิเศษมากกว่าที่อื่น และปูที่ขึ้นชื่อของทตโตะริ นั่นคือปูซูไว (Zuwai kani) ที่สามารถรับประทานกันได้ตลอดทั้งปี หากใครได้ไปทตโตะริขอแนะนำเมนูสารพัดปูเลยนะคะ รับรองว่าคุณจะลืมปูทุกที่ที่คุณเคยกินไปเลยค่ะ
พักผ่อนจากการท่องเที่ยวและเติมพลังกันจนเต็มอิ่มแล้ว ธรรมเนียมปิดทริปค่ะ นั่นคือการหาซื้อของฝากกลับบ้านเป็นระลึกกัน มาเริ่มกันที่ เครื่องปั้นดินเผา ที่ถูกรังสรรค์โดยช่างปั้นหม้อแห่งทตโตะริ ที่กลั่นความคิดออกเป็นงานดีไซน์เครื่องปั้นดินเผาที่สามารถนำไปจัดเข้ากับอาหารได้ในทุกรูปแบบ แต่หากใครอยากได้ของฝากที่เป็นขนมแล้วละก็ เราขอแนะนำ ขนมดังโงะ แห่งสวนอุซึบุกิ ขนมดังโงะเสียบไม้ เรียงตัวสวย จัดอยู่ในกล่องอย่างดี หรือจะเป็น อินาบะโนะ ชิโระอุซางิ ขนมมันจูรูปกระต่ายไส้ถั่วแดง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากว่า 40 ปี และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของจังหวัดทตโตะริ คือ ลูกแพร์พันธุ์ศตวรรษที่ 20 นิจิเซกิ ที่ให้รสชาติที่ออกเปรี้ยวเพียงเล็กน้อย ทำให้กินได้เพลิน ๆ นอกจากจะกินสดแล้วยังมีการนำมาแปรรูปเป็นทั้งเวเฟอร์ไส้ครีมที่ผสมเนื้อลูกแพร์ หรือการทำเป็นเยลลี่ลูกแพร์ เป็นต้น
และอีกหนึ่งในของที่ระลึก ที่ถ้าได้มาถึงทตโตะริแล้วไม่ได้ซื้อกลับบ้าน ก็จะเหมือนกับมาไม่ถึง ทตโตะริ นั่นคือ ของที่ระลึกจากการ์ตูนชื่อดังอย่างเรื่อง “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” ซึ่งขอแนะนำเสื้อยืดที่พิมพ์ลายโคนันซึ่งกำลังขี่อูฐอยู่บนเนินทรายทตโตะริ ซึ่งเป็นลายเอกลักษณ์ของที่นี่ นอกจากนั้นยังมีเครื่องเขียน ขนมคุกกี้ หมวก และของอื่นๆ ที่เป็นลวดลายจากการ์ตูนเรื่องโคนัน หรือจะซื้อขนมที่จับเอาคาแรกเตอร์ของเหล่าปีศาจจากการ์ตูน “อสูรน้อยคิทาโร่” อย่างขนมลูกตาปีศาจ ซื้อกลับไปเป็นของฝากของที่ระทึก ก็จะเรียกเสียงกรี๊ดจากเพื่อน ๆ ได้เลยค่ะ
อื้อหือ งานเที่ยวขี่อูฐ ชมวิว กินปูคราวนี้ มันช่างได้อารมณ์ความว้าว เพราะการได้ขี่อูฐในประเทศญี่ปุ่น ท่องเที่ยวไปในสถานที่ที่แปลกตาและท้าทาย บวกกับการได้รับประทานของอร่อย ๆ ที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ ที่จังหวัดนี้ เพราะที่นี่คือทตโตะริค่ะ อีกหนึ่งจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องมาเที่ยวให้ได้สักครั้งค่ะ
ข้อมูลจาก : https://www.tottori-tour.jp/th/
https://web.facebook.com/tottori.th/
https://matcha-jp.com/th/5485