ใครที่ได้มีโอกาสฟังเพลงญี่ปุ่นหรือชมมิวสิควิดีโอเพลงญี่ปุ่นบ่อยๆ ก็มักจะได้เห็นภาพวิวสวยๆ หรือทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งจากในญี่ปุ่นและในต่างประเทศกันมาบ้าง แต่รู้ไหมว่ามีมิวสิควิดีโอเพลงญี่ปุ่นส่วนหนึ่งที่พวกเค้าได้ตัดสินใจเลือกเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยด้วยนะ
ดังนั้นในบทความนี้แอดก็เลยขอถือโอกาสรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอ 12 มิวสิควิดีโอเพลงญี่ปุ่นที่มาถ่ายทำในประเทศไทย กันจ้า ซึ่งในบางเพลงหลายๆ คนอาจจะรู้จักกันอยู่แล้วหรือเคยได้ยินได้ฟังจนคุ้นหูกันมาบ้าง แต่ก็มีอีกหลายๆ เพลงเลยที่หลายๆ คนไม่เคยรู้จักมาก่อน (รวมถึงตัวแอดด้วย 555)
ว่าแล้วก็ติดตามชมไปพร้อมๆ กันเลยนะ (^O^)
เป็น MV ที่แอดเจอมาด้วยความบังเอิญค่ะ ซึ่งถ้าหากได้ดู MV เพลงนี้ในช่วงแรกๆ ก็จะยังไม่พบอะไรเป็นพิเศษมากนอกไปจากการได้เห็นเหล่าสมาชิกในวง Southern All Stars เล่นดนตรีและร้องเพลงท่ามกลางทุ่งดอกไม้และกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายด้วยเทคนิค CG อีกที
แต่พอเข้ามาในส่วนของพาร์ทสตอรี่เท่านั้นแหละ แอดถึงกับอึ้งมากกกก!! (゚∀゚) ทั้งฉากเด็กน้อยในชุดและทรงผมที่ดูคล้ายกับเด็กนักเรียนไทยเสียเหลือเกินนน ไหนจะบรรยากาศภาพรวมใน MV เพลงนี้อีก ทำไมมันดูคล้ายๆ กับของบ้านเราเลยน้าา 555
ใช่แล้วค่ะ เพราะในส่วนของพาร์ทสตอรี่ที่ปรากฏอยู่ใน MV เพลงนี้ได้มีการเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยนั่นเอง โดยจะเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่มีเหตุให้ต้องย้ายเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ เนื่องด้วยการงานของครอบครัว แต่ในช่วงระหว่างนั้นเอง เจ้าตัวก็ได้พบกับเด็กสาวที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนหนึ่ง แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ได้สร้างความทรงจำและมิตรภาพดีๆ ร่วมกัน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น…
เอาเป็นว่าไม่สปอยต่อละกัน ใครอยากรู้ก็ต้องเข้าไปดูกันนะ (≧▽≦)
ผู้ที่รับบทเป็นเด็กหนุ่มญี่ปุ่นคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คามิกิ ริวโนะสุเกะ (Kamiki Ryunosuke) นักแสดงหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่มีผลงานโดดเด่นมาตั้งแต่เด็กนั่นเอง ซึ่งในตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งจะมีอายุได้เพียง 11 ปีเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในนักแสดงคุณภาพของญี่ปุ่นที่มีผลงานน่าจับตามอง ทั้งงานภาพยนตร์ งานละคร งานพากย์ และผลงานอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ในส่วนของนักแสดงคนอื่นๆ ทั้งผู้ที่รับบทเป็นเด็กสาวในเรื่อง รวมถึงผู้ที่รับบทเป็นนักเรียนร่วมชั้น คาดว่าทางทีมงานน่าจะได้ทำการคัดเลือกนักแสดงเด็กไทยเข้ามาอีกที แต่ใดๆ ก็คือน้องๆ ทุกคน โดยเฉพาะน้องผู้หญิงน่ารักมากๆ (*’∀’人)♥*+
สำหรับในส่วนของเพลง Aya ~Aja~ นั้น ก็เป็นผลงานซิงเกิ้ลที่ 48 ของวง Southern All Stars ที่มีคุณ คุวาตะ เคสุเกะ (Kuwata Keisuke) เป็นนักร้องนำ ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2547 ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงรักในฤดูใบไม้ผลิที่โด่งดังมากๆ ในช่วงยุคนั้นด้วย เพราะสามารถคว้าอันดับ 1 Oricon Chart ไปได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่จำหน่ายเลย ด้วยยอดขายกว่า 133,000 แผ่น
และในเวลาต่อมา เมื่อได้มีการนำเพลง Aya ~Aja~ มารวมอยู่ในอัลบั้ม KILLER STREET ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2548 คุณคุวาตะก็ได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เจ้าตัวได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่ออุทิศต่อการจากไปของคุณพ่อนั่นเองค่ะ
เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชื่อเพลง Aya ~Aja~
เพลง “Aya ~Aja~”「彩~Aja~」นี้ประกอบด้วยคำจาก 2 ภาษา ได้แก่ คำว่า「彩」(อายะ) ซึ่งเป็นคำในภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า “สีสัน” และคำว่า「Aja」(อาจะ) ซึ่งเป็นคำในภาษาอินโดนีเซียที่มีความหมายว่า “นิรันดร์”
สายละครญี่ปุ่นทั้งหลาย ถ้าได้ยินเพลงนี้คงต้องมีคุ้นหูกันบ้างแน่นอน เพราะนี่คือเพลง PEACH ของนักร้องสาว โอทสึกะ ไอ (Otsuka Ai) ที่ถูกใช้เป็นเพลงประกอบละครญี่ปุ่นสุดฮิต “Hanazakari no Kimitachi e” หรือ “Hana Kimi” เวอร์ชั่นปี 2007 นั่นเอง
แต่ทุกคนรู้ไหมว่าในส่วนของมิวสิควิดีโอเพลงนี้ เค้าได้เลือกที่จะมาถ่ายทำในประเทศไทยด้วยนะ (๑✧∀✧๑)☀
ตอนแรกที่แอดได้กดเจอคลิป MV เพลงนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลย ก็นั่งดูนั่งฟังไปตามประสาคนเคยดูละครเรื่อง “Hana Kimi” แล้วคุ้นหูกับเพลงนี้นี่แหละ
แต่พอได้ดูจนเกือบจะเข้าสู่ช่วงท้ายเพลงแล้ว แอดก็ดันเห็นหลายๆ ฉากที่ชวนเอ๊ะมากกก!! ( ゚∀゚)
ทั้งฉากหนุ่มถอดเสื้อจนเห็นกางเกงที่เขียนคำว่า “มวยไทย”
พัดที่คุณไอใช้ก็ทำไมแลดูคุ้นตาเสียเหลือเกิน คลับคล้ายกับพัดสานที่คุณยายแอดชอบใช้เลย
แถมไหนจะเสื้อโลโก้กระทิงแดงที่หนุ่มญี่ปุ่นอีกคนสวมอีก...
โอ๊ยยยย ถ้าไม่มีของที่สื่อถึงประเทศไทย แอดก็คงจะไม่มีทางรู้เลยจริงๆ ว่า MV เพลงนี้เค้ามาถ่ายทำในประเทศไทยจ้าาา 5555 (*`▽´*)
และเพื่อความชัวร์ แอดก็เลยได้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติม จนได้มาพบกับข้อมูลจากทางทวิตเตอร์ อฟช ของค่าย Avex ต้นสังกัดของคุณไอ ก็เลยสามารถยืนยันได้ว่า MV เพลง “PEACH” ได้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยจริงๆ จ้า ซึ่งในทวิตนั้นได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า
“มิวสิควิดีโอเพลงนี้ได้มีการไปถ่ายทำในประเทศไทย แต่ก็ต้องกุมขมับเมื่อเจอกับสภาพฝนฟ้าคะนองอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ได้เดินทางไปถึงต่างประเทศทั้งที…”
(อ้างอิงจาก https://twitter.com/avex_pr/status/1499218124977152003 )
ฮือออ อ่านแล้วแอดล่ะถึงกับสงสารคุณไอและทีมงานที่เกี่ยวข้องเสียจริงๆ (^^;
และนอกจากนี้ แอดก็ยังได้เจอข้อมูลเพิ่มเติมแบบไม่เป็นทางการด้วยนะว่า สถานที่ที่ปรากฏอยู่ใน MV เพลง “PEACH” นั้นอยู่ตรงแถวชะอำ จังหวัดเพชรบุรี นั่นเอง แต่เนื่องด้วยตัวเพลงที่มีอายุกว่า 15 ปีแล้ว รวมถึงข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่ตอนนี้หาได้ค่อนข้างยากแล้ว เลยทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ 100% ค่ะ แต่ส่วนตัวแอดเองก็คิดว่ามีความเป็นไปได้อยู่นะที่พวกเค้าจะมาถ่ายทำกันที่ชะอำจริงๆ
เพลง PEACH เป็นผลงานซิงเกิ้ลที่ 15 ของนักร้องสาว โอทสึกะ ไอ (Otsuka Ai) ที่ในตอนนั้นเจ้าตัวได้ออกผลงานมาพร้อมกับเพลง “HEART” ในฐานะ Double A-Side Single ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ซึ่งซิงเกิ้ลนี้ก็สามารถคว้าอันดับ 1 Oricon Chart ประจำสัปดาห์ไปครองด้วยยอดขาย 68,346 แผ่น และอยู่ในชาร์ตยาวนานกว่า 14 สัปดาห์เลยทีเดียว
ใครที่ได้ติดตามวงสาวๆ ไอดอลญี่ปุ่น โดยเฉพาะตระกูล 48 เมื่อช่วงราวๆ เกือบ 10 ปีก่อน จะต้องทันเพลงนี้อย่างแน่นอน Sansei Kawaii! ผลงานซิงเกิ้ลที่ 13 จากวง SKE48 วงน้องสาวของ AKB48 ซึ่งมีเธียเตอร์อยู่ในย่านซาคาเอะ เมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 และสามารถคว้าอันดับ 1 Oricon Chart ไปได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ออกวางจำหน่ายเลยทีเดียว
เพลง Sansei Kawaii! มีเซมบัตสึเมมเบอร์ที่ได้รับเลือกรวมทั้งหมด 16 คน โดยผู้ที่ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งเซนเตอร์ก็คือ สองสาว W Matsui อย่าง มัตสึอิ จูรินะ (Matsui Jurina) และ มัตสึอิ เรนะ (Matsui Rena) นั่นเอง
นอกจากตัวเพลงนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก และทำนองเพลงที่ทำออกมาได้อย่างสดใสร่าเริงแล้ว ในส่วนของการถ่ายทำมิวสิควิดีโอ ทางวงก็ได้ตัดสินใจเดินทางมาถ่ายทำในประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 โดยเลือกเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งภายในตัว MV เราจะได้เห็นสาวๆ ไปตามสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ภายในเมืองพัทยาเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งในตอนกลางวันและในตอนกลางคืนเลยทีเดียว
ฉากไฮไลต์หลักๆ ของเพลงนี้ก็มีทั้งฉากที่สาวๆ ทั้ง 16 คน นั่งอยู่บนหลังช้างรวมทั้งหมด 8 ตัว กลางถนนเลียบชายหาดพัทยา ฉากสาวๆ เต้นอยู่กลางถนนคนเดินในตอนกลางคืน และฉากสาวๆ ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กับเหล่าบรรดาแฟนคลับชาวไทยที่ได้ทราบข่าวและตามมาชมเบื้องหลังการถ่ายทำ รวมถึงผู้คนจากทั้งในและนอกประเทศที่ได้เดินทางเข้ามาเที่ยวและบังเอิญได้เข้ามามีส่วนร่วมใน MV เพลงนี้ด้วย แถมชุดคอสตูมของสาวๆ ก็มีสีสันสดใสคัลเลอร์ฟูลมากๆ เห็นแล้วก็พลอยทำให้นึกถึงชุดคอสตูมในเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ของน้องๆ BNK48 เลยล่ะค่ะ
ด้วยความที่ตัวเพลงนี้มีอายุเกือบ 10 ปีแล้ว การจะได้เห็นสาวๆ เซมบัตสึจากเพลง “Sansei Kawaii!” มารวมตัวกันอีกครั้งก็คงจะยากสักหน่อย เนื่องจากสาวๆ ในเพลงนี้ได้ “แกรด” หรือ “จบการศึกษา” ออกจากวงกันเกือบทุกคนแล้ว โดยสมาชิกเซมบัตสึในเพลงที่ยังเหลืออยู่ตอนนี้ (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565) ก็มีแค่ “สุดะ อาคาริ” (Suda Akari) และ “ฟุรุฮาตะ นาโอะ” (Furuhata Nao) เพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งทั้งคู่ก็ได้ประกาศจบการศึกษาไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และจะอยู่ทำกิจกรรมกับวงไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนปีนี้
ถ้าถามว่าแอดรู้ข้อมูลนี้มาได้ยังไง ต้องบอกว่าเมื่อก่อนแอดเองก็ติดตามข่าวสารของสาวๆ ตระกูล 48 แทบจะทุกวงเลยล่ะ อีกทั้งยังมีเพื่อนและคนรู้จักที่ได้ตามไปชมเบื้องหลังการถ่ายทำและได้เข้าไปร่วมแสดงในฉากเล่นน้ำสงกรานต์กับสาวๆ ด้วย แต่น่าเสียดายที่ในตอนนั้นแอดเองติดธุระก็เลยไม่ได้ตามไปกะเค้า ไม่งั้นก็คงอาจจะได้ฟินสุดๆ ไปแล้วล่ะค่ะ 555 ใครที่เคยได้ไปพัทยาในตอนนั้นก็มาคอมเม้นท์เล่าเรื่องราวแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ o(*^▽^*)o~♪
ต้องบอกก่อนว่าทางช่องยูทูป อฟช ของวง SKE48 เค้าลงคลิปมาให้แต่แบบไม่เต็มเพลงนะ ใครที่อยากชมแบบเต็มเพลงก็ต้องลองหามาชมเพิ่มเติมกันเองนะจ๊ะ ♡→ܫ←♡
กลุ่มไอดอลสาวญี่ปุ่น NMB48 วงน้องสาวของ AKB48 ซึ่งมีเธียเตอร์อยู่ในย่านนัมบะ จังหวัดโอซาก้า ก็เป็นอีกหนึ่งวงที่เคยได้เดินทางมาถ่ายทำมิวสิควิดีโอที่ประเทศไทยเหมือนกันนะ กับเพลงที่มีชื่อว่า Boku wa Inai ผลงานซิงเกิ้ลที่ 15 ของวง NMB48 ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559 และได้อันดับ 1 Oricon Chart ประจำสัปดาห์ด้วย
เพลง Boku wa Inai เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักในฤดูร้อนอันแสนเศร้า ประกอบด้วยสมาชิกเซมบัตสึรวมทั้งหมด 16 คน โดยมี วาตานาเบะ มิยูกิ (Watanabe Miyuki) หรือ มิลกี้ มาทำหน้าที่ในตำแหน่งเซนเตอร์ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะจบการศึกษาออกจากวง
สำหรับในส่วนของการถ่ายทำมิวสิควิดีโอ ในตอนนั้นทางวงได้ตัดสินใจเดินทางเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย โดยมีสถานที่ถ่ายทำหลักๆ อยู่ในหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก จังหวัดนนทบุรี
ซึ่งในพาร์ทสตอรี่ของ MV เพลงนี้ จะเป็นเรื่องราวของมิลกี้ที่ได้ตัดสินใจออกเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยเพียงลำพัง เริ่มจุดสตาร์ทตั้งแต่ที่สถานีรถไฟหัวหิน หลังจากนั้นก็ได้ไปตามสถานที่ต่างๆ มากมาย แต่ปรากฏว่าในระหว่างที่กำลังเดินเที่ยวชมวิวเพลินๆ อยู่นั้น ไม่ว่าจะไปตรงไหน ก็จะเจอกับเหล่าเพื่อนๆ สมาชิกในวงโผล่อยู่ตามที่ต่างๆ ตลอดทางเลยทีเดียว…
ถ้าแอดเป็นมิลกี้คงได้มีหลอนกันไปข้างนึงแล้วล่ะค่ะ 5555 。:゚(。ノω\。)゚・。
นอกจากในพาร์ทสตอรี่แล้ว ก็ยังมีพาร์ทการแสดงที่สาวๆ ได้เต้นเพลงนี้อยู่ตรงริมหาดหัวหินในชุดว่ายน้ำด้วย ซึ่งทางวงก็ได้อัพโหลดคลิปทั้ง 2 เวอร์ชั่นลงในช่องยูทูป อฟช ของวง NMB48 เป็นที่เรียบร้อย แต่เป็นในรูปแบบ Short Version ไม่เต็มเพลงนะ
และด้วยความที่ตัวเพลงได้ทำออกมานานหลายปีแล้ว การจะได้เห็นสาวๆ มารวมตัวกันอีกครั้งก็คงจะยากอยู่เหมือนกัน เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ในเพลงนี้ได้จบการศึกษาออกจากวงกันเกือบทุกคนแล้ว จะเหลือเพียงแค่ “คาโต้ ยูกะ” (Kato Yuka) และ “ชิบุยะ นางิสะ” (Shibuya Nagisa) เท่านั้นที่ยังคงเป็นสมาชิกของวง NMB48 จนถึงปัจจุบันนี้ (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565)
ใครที่นึกถึงบรรยากาศในกรุงเทพฯ สมัยยุค ‘90 ขอแนะนำให้เข้าไปชมมิวสิควิดีโอเพลงนี้เลยจ้า Manatsu No Kiseki ผลงานของวงร็อคญี่ปุ่นนามว่า THE BOOM ประกอบไปด้วยสมาชิก 4 หนุ่ม ได้แก่ คุณมิยาซาวะ คาซึฟุมิ (Miyazawa Kazufumi) นักร้องนำ-มือกีต้าร์, คุณโคบายาชิ ทาคาชิ (Kobayashi Takashi) มือกีต้าร์, คุณยามาคาวะ ฮิโรมาสะ (Yamakawa Hiromasa) มือเบส และคุณโทจิงิ ทาคาโอะ (Tochigi Takao) มือกลอง
พวกเขาทั้ง 4 ได้ก่อตั้งวงนี้ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2529 และได้เดบิ้วท์อย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2532 ซึ่งก็ได้ออกผลงานเพลงสร้างชื่อเสียงเรื่อยมา อาทิ เพลง “Hoshi no Love Letter”, “Shima Uta” และ “Kaze ni Naritai” จนเมื่อครบรอบเดบิ้วท์ 25 ปี ในปี พ.ศ. 2557 พวกเขาก็ได้ตัดสินใจยุบวงและแยกย้ายกันไปเติบโตในเส้นทางของตนเอง
สำหรับเพลง Manatsu No Kiseki นี้ก็เป็นผลงานซิงเกิ้ลที่ 12 ของวงที่ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 และสามารถทำอันดับใน Oricon Chart ได้สูงสุดอยู่ในอันดับที่ 16
ในส่วนของการถ่ายทำมิวสิควิดีโอนั้น พวกเขาก็ได้เลือกมาถ่ายทำในกรุงเทพฯ โดยตลอดทั้ง MV เราจะได้เห็นเหล่าสมาชิกในวงออกเดินทางไปตามหลายๆ ย่านในกรุงเทพฯ ด้วยรถตุ๊กตุ๊ก เรือหางยาว รวมถึงยังได้เดินเท้าไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ ด้วย อย่างที่แอดเห็นแล้วพอจะเดาได้ก็น่าจะมีแถวย่านเยาวราช-สำเพ็งแน่ๆ ล่ะ 1
นอกจากสมาชิกในวงซึ่งนำทีมโดยคุณคาซึฟุมิเดินร้องเพลงพร้อมกับเล่นกีต้าร์ไปเกือบตลอดทางแล้ว พวกเขาก็ยังได้ถ่ายทอดบรรยากาศให้เห็นด้วยว่าวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ ในสมัยนั้นมีการดำรงชีวิตอย่างไร ใครที่อยากรู้ ต้องกดเข้าไปชมกันให้ได้นะคะ
แต่ถ้าถามว่า…แล้วแอดรู้ได้ไงว่ามีเพลงนี้เข้ามามาอยู่ในลิสต์ด้วย ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่า แอดรู้มาด้วยความบังเอิญจริงๆ จ้าาา แบบว่ากดสุ่มฟังเพลงตามคลิปในยูทูปไปเรื่อยๆ จนมาถึงเพลงนี้ ซึ่งแวบแรกที่ได้ยินเสียงไดอะล็อกผู้หญิงคุยกัน 2 คนนี่แหละ ที่ทำเอาตกใจเลยว่าทำไมพอจะฟังเพลงญี่ปุ่นแล้วถึงมีเสียงภาษาไทยออกมา แต่พอได้เห็นตัว MV แล้วก็ถึงบางอ้อเลย โอเค รู้เรื่อง 5555 (○´∀`○)ノ
คุณฮิราอิ เคน (Hirai Ken) ศิลปินหนุ่มชาวญี่ปุ่นแท้ๆ… (จริงๆ นะเออ (´;ω;`)ウッ) ฉายา “เจ้าพ่อ R&B ของญี่ปุ่น” ที่มีเพลงฮิตติดหูอย่าง “Hitomi wo Tojite” เพลงประกอบละครญี่ปุ่นเรื่อง “อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก” (Crying Out Love, In the Center of the World) และ “POP STAR” เพลงประกอบละครญี่ปุ่นเรื่อง “Kiken na Aneki” (Dangerous Beauty) ก็เคยได้เดินทางเข้ามาถ่ายทำมิวสิควิดีโอในประเทศไทยเช่นกัน กับเพลงนี้เลยจ้าา Mahoutte Itte Ii Kana?
เพลง Mahoutte Itte Ii Kana? เป็นผลงานซิงเกิ้ลที่ 40 ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เป็นเพลงช้าแนวบัลลาดเรียบง่ายที่แต่งขึ้นด้วยกีต้าร์โปร่ง โดยตัวคุณเคนเป็นคนแต่งเนื้อร้องกับทำนองเอง และมีคุณนากาโอกะ เรียวสุเกะ (Nagaoka Ryosuke) นักร้องนำและมือกีต้าร์จากวง PETROLZ เป็นคนเรียบเรียง
ถึงแม้ว่าซิงเกิ้ลนี้จะทำยอดขายในสัปดาห์แรกได้สูงสุดอยู่เพียงอันดับที่ 15 ของ Oricon Chart แต่ในส่วนของยอดดาวน์โหลดเพลงดิจิตอลตามช่องทางต่างๆ ทั้ง iTunes, RecoChoku, mora และ music.jp กลับได้อันดับ 1 ไปครอง คาดว่าน่าจะเป็นเพราะทางต้นสังกัดได้ปล่อยผลงานให้เหล่าแฟนเพลงได้เข้าไปอุดหนุนดาวน์โหลดกันก่อนที่ตัวแผ่น CD ซิงเกิ้ลจะออกวางจำหน่ายจริงนั่นเอง
สำหรับในส่วนของการถ่ายทำมิวสิควิดีโอนั้น ทางคุณเคนและทีมงานก็ได้ลงทุนเดินทางมาถ่ายทำถึงในประเทศไทยท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุ โดยเน้นถ่ายทำในซีนร้องเพลงแสดงสดตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แม้จะมีอุปสรรคในเรื่องของกำแพงภาษา แต่คุณเคนก็ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกในบทเพลงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนี้ ในตัว MV เองก็ยังได้เผยให้เห็นถึงสภาพบรรยากาศภายในกรุงเทพฯ รวมถึงสีหน้าและอารมณ์ของชาวไทยส่วนหนึ่งในมุมมองที่ค่อนข้างซีเรียส จริงจัง ซึ่งต่างจาก MV เพลงอื่นๆ ที่นำเสนอด้วยภาพลักษณ์ความสดใสและความสนุกสนานเมื่อได้มาเที่ยวเมืองไทย
จะว่าไปใครที่ได้ดู MV เพลงนี้แล้ว รู้สึกคุ้นๆ กับย่านไหนเป็นพิเศษบ้างคะ? ส่วนตัวแอดนั้นคุ้นๆ กับบรรยากาศแถวถนนข้าวสารและถนนไกรสีห์ในช่วงยุคก่อนปรับปรุงพื้นที่ล่ะ แต่ในซีนอื่นๆ บางซีนแอดดูแล้วก็เดาไม่ออกเลยว่าเป็นที่ไหน ใครที่ดูแล้วรู้ก็เข้ามาแชร์พิกัดกันได้น้าา
ปล.น่าเสียดายที่ตัว MV มีแต่แบบ Short Version ไม่งั้นคงได้ฟังกันแบบเต็มเพลงแล้วล่ะค่ะ มุแงง (T∇T)
คุณ โคดะ คุมิ (Koda Kumi) ก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เคยได้เดินทางเข้ามาถ่ายทำมิวสิควิดีโอในเมืองไทยเช่นกัน กับผลงานซิงเกิ้ลที่ 8 ที่มีชื่อว่า COME WITH ME ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2546 และสามารถทำอันดับใน Oricon Chart ได้สูงสุดอยู่ในอันดับที่ 14
ใน MV เพลง COME WITH ME นี้ ว่ากันว่าทางทีมงานได้เลือกโลเคชั่นสถานที่ถ่ายทำตรงแถวเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมีฉากหลักๆ เป็นงานปาร์ตี้ริมหาดยามค่ำคืนที่คุณคุมิได้ออกมาร้องเพลงและเต้นรำอยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก สลับกับฉากนั่งร้องเพลงบนหาดทรายยามเย็นที่มีทะเลพัทยาเป็นแบ็คกราวนด์ และฉากโคลสอัพฉายเดี่ยวในลุคเท่สุดคูล
ถึงแม้จะไม่มีฉากที่พอจะได้เห็นภาพชัดๆ ในแวบแรกว่าถ่ายทำอยู่ตรงไหน แต่สิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าทางทีมงานได้เลือกเดินทางเข้ามาถ่ายทำ MV ในไทยจริงๆ ก็คือ ฉากบทสนทนาของชายหนุ่มไทย 3 คน ที่ออกมาตอนก่อนเริ่มอินโทรเพลงนี้นั่นเองจ้า ถ้าใครอยากรู้ว่าพวกเค้าพูดคุยอะไรกันบ้าง ต้องตามเข้าไปชม MV กันให้ได้นะคะ 5555
คุณโคดะ คุมิ เป็นนักร้องสาวชาวญี่ปุ่นที่แจ้งเกิดเข้าสู่วงการบันเทิงเมื่อปี พ.ศ. 2543 และมีผลงานเพลงซึ่งเป็นที่จดจำออกมามากมาย อาทิ เพลง Ai no Uta, you, Butterfly ฯลฯ ในขณะเดียวกัน เธอก็ยังเป็นพี่สาวแท้ๆ ของนักร้องสาว misono ด้วย
ทางด้านชีวิตส่วนตัว คุณโคดะ คุมิ ได้แต่งงานกับคุณ KENJI03 นักร้องนำวง BACK-ON ปัจจุบันมีลูกชายด้วยกัน 1 คน
จนถึงทุกวันนี้ คุณคุมิก็ยังคงออกผลงานเพลงมาให้ได้ฟังกันอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ได้ออกผลงานอัลบั้มชุดใหม่มาให้ได้ฟังกันแล้วกับอัลบั้มที่มีชื่อว่า “heart” ซึ่งหลายๆ เพลงในอัลบั้มชุดนี้ก็มี MV ให้ชมกันผ่านช่องยูทูปออฟฟิเชี่ยลแชนแนลเป็นที่เรียบร้อย ใครที่คิดถึงผลงานของนักร้องสาวคนนี้ก็ไปหามาฟังกันได้จ้าา v(。・ω・。)ィェィ♪
วง INTERSECTION เป็นกลุ่มศิลปินบอยแบนด์จากค่าย Avex ที่ประกอบด้วยสมาชิก 4 หนุ่มลูกครึ่ง ได้แก่ MIKA HASHIZUME (Mika], KAZUMA MITCHELL (Kaz], WILLIAM AOYAMA (William) และ CAELAN MORIARTY (Caelan) โดยชื่อวง INTERSECTION มีที่มาจาก “สถานที่ที่สมาชิกทั้ง 4 เกิดและเติบโตในสถานที่และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน” ซึ่งผลงานเพลงส่วนใหญ่ของวงจะมีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเจาะกลุ่มตลาดเพลงอินเตอร์โดยเฉพาะ และมีกลุ่มแฟนคลับจากในหลายๆ ประเทศ รวมถึงในประเทศไทยด้วย
สำหรับเพลง Hot Water ก็เป็นหนึ่งในผลงานเพลงจากอัลบั้มชุด INTERSECTION ที่ออกวางจำหน่ายแบบดิจิตอลดาวน์โหลดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562 โดยในครั้งนั้น หนุ่มๆ ทั้ง 4 ก็ได้เลือกมาถ่ายทำมิวสิควิดีโอในเมืองไทยของเรานั่นเองงง(*^ワ^*)
ภายใน MV เราจะได้เห็นทั้ง 4 หนุ่มอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ในไทย ทั้ง ม.กรุงเทพ, ร้าน Flamenco ภายในห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์, โรงแรม Furama Silom รวมไปถึงบรรยากาศท่ามกลางตลาดนัดและวิวบนตึกสูงๆ จากดาดฟ้าตึก กสท.บางรัก ที่มองเห็นตึกแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ ในกรุงเทพฯ มากมาย เช่น ตึกมหานคร, ตึกใบหยก 2, ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม ฯลฯ
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ในตอนนี้ทางวง INTERSECTION ไม่ได้มีผลงานใหม่ๆ ออกมาให้ฟังกันแล้ว เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางต้นสังกัดได้ออกมาประกาศว่าได้ตัดสินใจยุติกิจกรรมของวงไปแบบไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 หลังจากที่ Mika ได้ผ่านออดิชั่นรายการ Produce Camp 2021 ในประเทศจีนและได้เดบิ้วท์เป็นหนึ่งในสมาชิกวง INTO1 อีกทั้งทาง Kaz และ William เองก็ได้สิ้นสุดสัญญากับทางค่าย Avex เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ ( ノω-、)
chelmico ยูนิตดูโอ้แรปเปอร์สาวสุดเท่ที่ประกอบด้วย 2 สมาชิก ได้แก่ Rachel (เรเชล) และ Mamiko (มามิโกะ) ทั้งคู่ได้เจอกันครั้งแรกที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขานิชินิปโปริ จากการแนะนำของเพื่อน ด้วยความที่ทั้งคู่ได้ทำงานถ่ายแบบและเป็นแฟนคลับของวง RIP SLYME เหมือนกัน ก็เลยเริ่มสนิทกันมาเรื่อยๆ จนได้มาทำงานเพลงด้วยกันในที่สุด และเริ่มออกผลงานเพลงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับมิวสิควิดีโอเพลงที่ทั้งคู่ได้เดินทางมาถ่ายทำในเมืองไทย ก็คือเพลง Highlight ซึ่งเป็นเพลงที่อยู่ในมินิอัลบั้มชุด EP ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560
จากใน MV เพลงนี้ เราจะได้เห็นทั้ง Rachel และ Mamiko สนุกกับการท่องเที่ยวผจญภัยไปตามสถานที่ต่างๆ ในเมืองไทย โดยโลเคชั่นหลักๆ ก็อยู่ในกรุงเทพฯ และอยุธยานั่นเอง
ซึ่งสถานที่ที่ปรากฏอยู่ใน MV เพลงนี้ก็มีอยู่หลายแห่งเลย เท่าที่แอดดูแล้วพอจะจำได้ก็จะมีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, วัดอรุณราชวราราม, สวนลุมพินี, สวนเฉลิมหล้า, วัดโลกยสุธาราม, วัดพระศรีสรรเพชญ์, สุสานเครื่องบิน และซอยชนะสงครามจ้าา
เพื่อนๆ คนไหนที่ดู MV แล้วเจอสถานที่อื่นๆ นอกเหนือจากนี้อีกก็แวะเข้ามาคอมเม้นท์บอกเพิ่มเติมกันได้นะ(〃^∇^)o
TRF เป็นกลุ่มศิลปินญี่ปุ่นจากค่าย Avex ที่เดบิ้วท์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 5 คน ได้แก่ DJ KOO, SAM, ETSU, YU-KI และ CHIHARU
หลายๆ คนที่ได้ยินชื่อวง “TRF” อาจจะงง ไม่รู้จักว่าพวกเขาเป็นใคร แต่ถ้าใครเติบโตมาในยุค ‘90 แล้วเคยได้ยินเพลง “survival dAnce ~no no cry more~” ที่เป็นเพลงประกอบละครญี่ปุ่นเรื่อง “17 Sai -at seventeen-” หรือที่มีชื่อในภาษาไทยว่า “สาวน้อยทาคุมิ” ก็คงต้องมีร้องอ๋อกันบ้างล่ะ เพราะว่าเพลงดังกล่าวเป็นผลงานของวง TRF นั่นเองจ้าา \(^ ^)/
แต่สำหรับในบทความนี้ แอดจะขอมาแนะนำเพลงนี้เลย Where to begin ผลงานซิงเกิ้ลที่ 26 ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2549 ซึ่งในตอนนั้นนับได้ว่าเป็นการคัมแบ็คกลับมาทำวงกันอีกครั้งหลังจากที่หยุดพักกิจกรรมวงไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542
ความพิเศษของเพลงนี้ก็คือ ทางวงได้ลงทุนบินมาถ่ายทำ MV กันถึงที่เมืองไทยเลยทีเดียว แถมในแต่ละฉากก็มีการเต้นแบทเทิลกันตลอดทั้งเพลงด้วย ทำให้บรรยากาศภาพรวมออกมาสนุกสนานมากๆ
ถึงแม้โลเคชั่นที่เลือกถ่ายทำกันจะไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ที่ไหน แต่ก็ยังมีฉากที่คุณ YU-KI นักร้องหลักของวงได้ออกไปยืนอยู่บนถนนท่ามกลางฉากที่มีป้ายโฆษณาภาษาไทย รถยนต์ติดเลขทะเบียนภาษาไทย และรถแท็กซี่ไทยที่วิ่งผ่านตัดฉาก ทำให้เราสามารถยืนยันข้อมูลได้ว่าพวกเขาได้เคยเดินทางมาถ่ายทำในเมืองไทยจริงๆ ค่ะ (´ω`*)
แต่ใดๆ แล้วนั้น ฉากเครื่องบินยักษ์ CG ที่วิ่งผ่านตึกแถวทาวน์เฮ้าส์แบบระยะประชิด มันก็ออกจะแลดูเกินจริงสำหรับแอดไปหน่อยนะ 555 (*′艸`)
ใครที่เป็นสายตามงานอีเว้นท์เกี่ยวกับญี่ปุ่น จะต้องรู้จักวงนี้อย่างแน่นอน!! WORLD ORDER กลุ่มศิลปินชายล้วนผู้มาพร้อมกับชุดสูทผูกเนคไทตามแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน ที่มีการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะท่าเต้นที่แสดงถึงความแข็งแกร่งแต่ให้ความรู้สึกราวกับเป็นหุ่นยนต์
พวกเขาได้เคยเดินทางมาทำการแสดงในเมืองไทยด้วยนะ ในช่วงราวๆ ปี พ.ศ. 2559-2560 โดยในปี พ.ศ. 2560 นอกจากจะมาร่วมแสดงในงาน JAPAN EXPO IN THAILAND 2017 แล้ว พวกเขาก็ยังได้ถือโอกาสถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลง FIND THE LIGHT ด้วย
ใน MV เพลงนี้ เราจะได้เห็นสมาชิกทั้ง 5 ของเพลงนี้ ได้แก่ Uchiyama Hayato, Morisawa Yusuke, Takahashi Akihiro, Takashi Jonishi และ Tomita Ryuta ออกวาดลวดลายการแสดงตามสถานที่ต่างๆ ในย่านสยามที่ทุกคนรู้จักกันดี ทั้งลานพาร์คพารากอน, ลานกว้างตรงสกายวอล์คหน้ามาบุญครอง (MBK Center], กลางถนนพระราม 1 ใกล้สถานีรถไฟ BTS สยาม อีกทั้งยังได้ไปถ่ายทำตรงซอยคาวบอย ย่านอโศก และที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย
ที่จริงแล้ว เพลง FIND THE LIGHT เป็นหนึ่งในผลงานซิงเกิ้ลชุดแรกของวง WORLD ORDER ที่ออกโปรโมทพร้อมกับเพลง PERMANENT REVOLUTION โดยออกวางจำหน่ายซิงเกิ้ลเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 และได้อันดับใน Oricon Chart ประจำสัปดาห์สูงสุดในอันดับที่ 26 แต่ด้วยความที่เพลง FIND THE LIGHT เป็นหนึ่งในเพลงที่แฟนคลับชื่นชอบกันมาก แต่กลับไม่มี MV ให้ชม เหล่าสมาชิกในวงจึงได้ตัดสินใจถ่ายทำ MV เพลงนี้เพื่อตอบสนองกระแสเรียกร้องของแฟนคลับนั่นเอง
วง WORLD ORDER ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2552 โดย Sudo Genki อดีตนักมวย K-1 ชื่อดังของญี่ปุ่น โดยผลงานเพลงเปิดตัวครั้งแรกของวงนี้ก็คือเพลง “World Order” ซึ่งมีชื่อเดียวกับวงเลยจ้า ซึ่งในปัจจุบัน วง WORLD ORDER เค้าก็ยังมีผลงานออกมาให้เราได้ชมกันอยู่นะ ใครที่คิดถึงก็ไปตามชมกันต่อได้ในช่อง YouTube Channel ของวงได้เลย (o゚v゚)ノ
นับได้ว่าเป็น MV เพลงญี่ปุ่นเพลงล่าสุดที่ได้เดินทางเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย ณ เวลานี้แล้วล่ะค่ะ สำหรับมิวสิควิดีโอเพลง Snow World เพลงรองจากผลงานซิงเกิ้ลเดบิ้วท์ชุด “D.D. / Imitation Rain” ของ 9 หนุ่มวง Snow Man อดีตซับยูนิตของกลุ่มเด็กฝึกหัดค่ายจอห์นนี่ส์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 และได้เดบิ้วท์อย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2563
ในตอนนั้น วง Snow Man ได้เดบิ้วท์พร้อมกับวง SixTONES โดยออกวางจำหน่ายซิงเกิ้ลเดบิ้วท์ร่วมกันเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2563 ซึ่งก็สามารถทำยอดขายออกมาได้ประมาณ 1.3 ล้านแผ่น และคว้าอันดับ 1 Oricon Chart ประจำสัปดาห์มาได้เป็นผลสำเร็จ
ถึงแม้ว่าตัวเพลง Snow World จะออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2563 แต่ในส่วนของ MV นั้นกลับถูกปล่อยออกมาทางช่อง YouTube Channel ทางการของวงในอีก 1 ปีถัดมา หรือเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2564 แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ เลยล่ะค่ะ (≧∀≦)
สำหรับเบื้องหลังการถ่ายทำ MV เพลงนี้ ก็เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่ทั้ง 9 หนุ่มได้เดินทางมาแสดงในไทยที่งาน Japan Expo Thailand 2020 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิดได้ไม่นาน
โดยใน MV เราจะได้เห็นหนุ่มๆ ออกท่องโลกผจญภัยในกรุงเทพโซนชั้นใน ผ่านสถานที่ต่างๆ ซึ่งเท่าที่พอจะสามารถระบุสถานที่ได้ก็จะมี เวิ้งนาครเขษม (ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลไปแล้ว], เสาชิงช้า, วัดสุทัศน์เทพวราราม, วัดอรุณราชวราราม, ปากคลองตลาด และท่ายอดพิมาน
นอกจากนี้ก็ยังมีการสอดแทรกหลายๆ สิ่งที่พวกเขารู้สึกอะเมซิ่งเมื่อได้มาเที่ยวในไทย ทั้งรถตุ๊กตุ๊ก รถเมล์สีชมพูสาย 8 (ที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ตำนานแล้ว) เรือหางยาว รวมถึงแมลงทอดด้วย
ใครที่ยังไม่ได้ชม MV เพลงนี้ บอกเลยว่าต้องดูนะ เค้าทำออกมาได้ดีมากจริงๆ และก็ได้แต่หวังว่าหลังจากนี้ทั้ง 9 หนุ่ม วง Snow Man จะมีโอกาสได้เดินทางมาที่ประเทศไทยอีกนะ แอดนี่รอตามข่าวเลย (o◕ฺω◕ฺ)♦♫⁺♦
ดังนั้นในบทความนี้แอดก็เลยขอถือโอกาสรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอ 12 มิวสิควิดีโอเพลงญี่ปุ่นที่มาถ่ายทำในประเทศไทย กันจ้า ซึ่งในบางเพลงหลายๆ คนอาจจะรู้จักกันอยู่แล้วหรือเคยได้ยินได้ฟังจนคุ้นหูกันมาบ้าง แต่ก็มีอีกหลายๆ เพลงเลยที่หลายๆ คนไม่เคยรู้จักมาก่อน (รวมถึงตัวแอดด้วย 555)
ว่าแล้วก็ติดตามชมไปพร้อมๆ กันเลยนะ (^O^)
Southern All Stars - Aya ~Aja~ (2004)
เป็น MV ที่แอดเจอมาด้วยความบังเอิญค่ะ ซึ่งถ้าหากได้ดู MV เพลงนี้ในช่วงแรกๆ ก็จะยังไม่พบอะไรเป็นพิเศษมากนอกไปจากการได้เห็นเหล่าสมาชิกในวง Southern All Stars เล่นดนตรีและร้องเพลงท่ามกลางทุ่งดอกไม้และกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายด้วยเทคนิค CG อีกที
แต่พอเข้ามาในส่วนของพาร์ทสตอรี่เท่านั้นแหละ แอดถึงกับอึ้งมากกกก!! (゚∀゚) ทั้งฉากเด็กน้อยในชุดและทรงผมที่ดูคล้ายกับเด็กนักเรียนไทยเสียเหลือเกินนน ไหนจะบรรยากาศภาพรวมใน MV เพลงนี้อีก ทำไมมันดูคล้ายๆ กับของบ้านเราเลยน้าา 555
ใช่แล้วค่ะ เพราะในส่วนของพาร์ทสตอรี่ที่ปรากฏอยู่ใน MV เพลงนี้ได้มีการเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยนั่นเอง โดยจะเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่มีเหตุให้ต้องย้ายเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ เนื่องด้วยการงานของครอบครัว แต่ในช่วงระหว่างนั้นเอง เจ้าตัวก็ได้พบกับเด็กสาวที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนหนึ่ง แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ได้สร้างความทรงจำและมิตรภาพดีๆ ร่วมกัน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น…
เอาเป็นว่าไม่สปอยต่อละกัน ใครอยากรู้ก็ต้องเข้าไปดูกันนะ (≧▽≦)
ผู้ที่รับบทเป็นเด็กหนุ่มญี่ปุ่นคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คามิกิ ริวโนะสุเกะ (Kamiki Ryunosuke) นักแสดงหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่มีผลงานโดดเด่นมาตั้งแต่เด็กนั่นเอง ซึ่งในตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งจะมีอายุได้เพียง 11 ปีเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในนักแสดงคุณภาพของญี่ปุ่นที่มีผลงานน่าจับตามอง ทั้งงานภาพยนตร์ งานละคร งานพากย์ และผลงานอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ในส่วนของนักแสดงคนอื่นๆ ทั้งผู้ที่รับบทเป็นเด็กสาวในเรื่อง รวมถึงผู้ที่รับบทเป็นนักเรียนร่วมชั้น คาดว่าทางทีมงานน่าจะได้ทำการคัดเลือกนักแสดงเด็กไทยเข้ามาอีกที แต่ใดๆ ก็คือน้องๆ ทุกคน โดยเฉพาะน้องผู้หญิงน่ารักมากๆ (*’∀’人)♥*+
สำหรับในส่วนของเพลง Aya ~Aja~ นั้น ก็เป็นผลงานซิงเกิ้ลที่ 48 ของวง Southern All Stars ที่มีคุณ คุวาตะ เคสุเกะ (Kuwata Keisuke) เป็นนักร้องนำ ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2547 ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงรักในฤดูใบไม้ผลิที่โด่งดังมากๆ ในช่วงยุคนั้นด้วย เพราะสามารถคว้าอันดับ 1 Oricon Chart ไปได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่จำหน่ายเลย ด้วยยอดขายกว่า 133,000 แผ่น
และในเวลาต่อมา เมื่อได้มีการนำเพลง Aya ~Aja~ มารวมอยู่ในอัลบั้ม KILLER STREET ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2548 คุณคุวาตะก็ได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เจ้าตัวได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่ออุทิศต่อการจากไปของคุณพ่อนั่นเองค่ะ
เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชื่อเพลง Aya ~Aja~
เพลง “Aya ~Aja~”「彩~Aja~」นี้ประกอบด้วยคำจาก 2 ภาษา ได้แก่ คำว่า「彩」(อายะ) ซึ่งเป็นคำในภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า “สีสัน” และคำว่า「Aja」(อาจะ) ซึ่งเป็นคำในภาษาอินโดนีเซียที่มีความหมายว่า “นิรันดร์”
Otsuka Ai - PEACH (2007)
สายละครญี่ปุ่นทั้งหลาย ถ้าได้ยินเพลงนี้คงต้องมีคุ้นหูกันบ้างแน่นอน เพราะนี่คือเพลง PEACH ของนักร้องสาว โอทสึกะ ไอ (Otsuka Ai) ที่ถูกใช้เป็นเพลงประกอบละครญี่ปุ่นสุดฮิต “Hanazakari no Kimitachi e” หรือ “Hana Kimi” เวอร์ชั่นปี 2007 นั่นเอง
แต่ทุกคนรู้ไหมว่าในส่วนของมิวสิควิดีโอเพลงนี้ เค้าได้เลือกที่จะมาถ่ายทำในประเทศไทยด้วยนะ (๑✧∀✧๑)☀
ตอนแรกที่แอดได้กดเจอคลิป MV เพลงนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลย ก็นั่งดูนั่งฟังไปตามประสาคนเคยดูละครเรื่อง “Hana Kimi” แล้วคุ้นหูกับเพลงนี้นี่แหละ
แต่พอได้ดูจนเกือบจะเข้าสู่ช่วงท้ายเพลงแล้ว แอดก็ดันเห็นหลายๆ ฉากที่ชวนเอ๊ะมากกก!! ( ゚∀゚)
ทั้งฉากหนุ่มถอดเสื้อจนเห็นกางเกงที่เขียนคำว่า “มวยไทย”
พัดที่คุณไอใช้ก็ทำไมแลดูคุ้นตาเสียเหลือเกิน คลับคล้ายกับพัดสานที่คุณยายแอดชอบใช้เลย
แถมไหนจะเสื้อโลโก้กระทิงแดงที่หนุ่มญี่ปุ่นอีกคนสวมอีก...
โอ๊ยยยย ถ้าไม่มีของที่สื่อถึงประเทศไทย แอดก็คงจะไม่มีทางรู้เลยจริงๆ ว่า MV เพลงนี้เค้ามาถ่ายทำในประเทศไทยจ้าาา 5555 (*`▽´*)
และเพื่อความชัวร์ แอดก็เลยได้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติม จนได้มาพบกับข้อมูลจากทางทวิตเตอร์ อฟช ของค่าย Avex ต้นสังกัดของคุณไอ ก็เลยสามารถยืนยันได้ว่า MV เพลง “PEACH” ได้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยจริงๆ จ้า ซึ่งในทวิตนั้นได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า
“มิวสิควิดีโอเพลงนี้ได้มีการไปถ่ายทำในประเทศไทย แต่ก็ต้องกุมขมับเมื่อเจอกับสภาพฝนฟ้าคะนองอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ได้เดินทางไปถึงต่างประเทศทั้งที…”
楽曲担当にこのMusic Videoについて聞いてみました✨
↓
「タイでの撮影でしたが荒天続きでわざわざ海外まで来たのに…と頭を抱えました。月日は流れ、2014年セルフカバー曲「PEACHーウォッカー」がリリース。大人になって一味違った仕上がりです!こちらもぜひ♪」https://t.co/QtuA7cdYDm
— 【公式】エイベックス 広報担当 (@avex_pr) March 3, 2022
(อ้างอิงจาก https://twitter.com/avex_pr/status/1499218124977152003 )
ฮือออ อ่านแล้วแอดล่ะถึงกับสงสารคุณไอและทีมงานที่เกี่ยวข้องเสียจริงๆ (^^;
และนอกจากนี้ แอดก็ยังได้เจอข้อมูลเพิ่มเติมแบบไม่เป็นทางการด้วยนะว่า สถานที่ที่ปรากฏอยู่ใน MV เพลง “PEACH” นั้นอยู่ตรงแถวชะอำ จังหวัดเพชรบุรี นั่นเอง แต่เนื่องด้วยตัวเพลงที่มีอายุกว่า 15 ปีแล้ว รวมถึงข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่ตอนนี้หาได้ค่อนข้างยากแล้ว เลยทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ 100% ค่ะ แต่ส่วนตัวแอดเองก็คิดว่ามีความเป็นไปได้อยู่นะที่พวกเค้าจะมาถ่ายทำกันที่ชะอำจริงๆ
เพลง PEACH เป็นผลงานซิงเกิ้ลที่ 15 ของนักร้องสาว โอทสึกะ ไอ (Otsuka Ai) ที่ในตอนนั้นเจ้าตัวได้ออกผลงานมาพร้อมกับเพลง “HEART” ในฐานะ Double A-Side Single ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ซึ่งซิงเกิ้ลนี้ก็สามารถคว้าอันดับ 1 Oricon Chart ประจำสัปดาห์ไปครองด้วยยอดขาย 68,346 แผ่น และอยู่ในชาร์ตยาวนานกว่า 14 สัปดาห์เลยทีเดียว
SKE48 - Sansei Kawaii! (2013)
ใครที่ได้ติดตามวงสาวๆ ไอดอลญี่ปุ่น โดยเฉพาะตระกูล 48 เมื่อช่วงราวๆ เกือบ 10 ปีก่อน จะต้องทันเพลงนี้อย่างแน่นอน Sansei Kawaii! ผลงานซิงเกิ้ลที่ 13 จากวง SKE48 วงน้องสาวของ AKB48 ซึ่งมีเธียเตอร์อยู่ในย่านซาคาเอะ เมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 และสามารถคว้าอันดับ 1 Oricon Chart ไปได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ออกวางจำหน่ายเลยทีเดียว
เพลง Sansei Kawaii! มีเซมบัตสึเมมเบอร์ที่ได้รับเลือกรวมทั้งหมด 16 คน โดยผู้ที่ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งเซนเตอร์ก็คือ สองสาว W Matsui อย่าง มัตสึอิ จูรินะ (Matsui Jurina) และ มัตสึอิ เรนะ (Matsui Rena) นั่นเอง
นอกจากตัวเพลงนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก และทำนองเพลงที่ทำออกมาได้อย่างสดใสร่าเริงแล้ว ในส่วนของการถ่ายทำมิวสิควิดีโอ ทางวงก็ได้ตัดสินใจเดินทางมาถ่ายทำในประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 โดยเลือกเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งภายในตัว MV เราจะได้เห็นสาวๆ ไปตามสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ภายในเมืองพัทยาเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งในตอนกลางวันและในตอนกลางคืนเลยทีเดียว
ฉากไฮไลต์หลักๆ ของเพลงนี้ก็มีทั้งฉากที่สาวๆ ทั้ง 16 คน นั่งอยู่บนหลังช้างรวมทั้งหมด 8 ตัว กลางถนนเลียบชายหาดพัทยา ฉากสาวๆ เต้นอยู่กลางถนนคนเดินในตอนกลางคืน และฉากสาวๆ ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กับเหล่าบรรดาแฟนคลับชาวไทยที่ได้ทราบข่าวและตามมาชมเบื้องหลังการถ่ายทำ รวมถึงผู้คนจากทั้งในและนอกประเทศที่ได้เดินทางเข้ามาเที่ยวและบังเอิญได้เข้ามามีส่วนร่วมใน MV เพลงนี้ด้วย แถมชุดคอสตูมของสาวๆ ก็มีสีสันสดใสคัลเลอร์ฟูลมากๆ เห็นแล้วก็พลอยทำให้นึกถึงชุดคอสตูมในเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ของน้องๆ BNK48 เลยล่ะค่ะ
ด้วยความที่ตัวเพลงนี้มีอายุเกือบ 10 ปีแล้ว การจะได้เห็นสาวๆ เซมบัตสึจากเพลง “Sansei Kawaii!” มารวมตัวกันอีกครั้งก็คงจะยากสักหน่อย เนื่องจากสาวๆ ในเพลงนี้ได้ “แกรด” หรือ “จบการศึกษา” ออกจากวงกันเกือบทุกคนแล้ว โดยสมาชิกเซมบัตสึในเพลงที่ยังเหลืออยู่ตอนนี้ (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565) ก็มีแค่ “สุดะ อาคาริ” (Suda Akari) และ “ฟุรุฮาตะ นาโอะ” (Furuhata Nao) เพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งทั้งคู่ก็ได้ประกาศจบการศึกษาไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และจะอยู่ทำกิจกรรมกับวงไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนปีนี้
ถ้าถามว่าแอดรู้ข้อมูลนี้มาได้ยังไง ต้องบอกว่าเมื่อก่อนแอดเองก็ติดตามข่าวสารของสาวๆ ตระกูล 48 แทบจะทุกวงเลยล่ะ อีกทั้งยังมีเพื่อนและคนรู้จักที่ได้ตามไปชมเบื้องหลังการถ่ายทำและได้เข้าไปร่วมแสดงในฉากเล่นน้ำสงกรานต์กับสาวๆ ด้วย แต่น่าเสียดายที่ในตอนนั้นแอดเองติดธุระก็เลยไม่ได้ตามไปกะเค้า ไม่งั้นก็คงอาจจะได้ฟินสุดๆ ไปแล้วล่ะค่ะ 555 ใครที่เคยได้ไปพัทยาในตอนนั้นก็มาคอมเม้นท์เล่าเรื่องราวแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ o(*^▽^*)o~♪
ต้องบอกก่อนว่าทางช่องยูทูป อฟช ของวง SKE48 เค้าลงคลิปมาให้แต่แบบไม่เต็มเพลงนะ ใครที่อยากชมแบบเต็มเพลงก็ต้องลองหามาชมเพิ่มเติมกันเองนะจ๊ะ ♡→ܫ←♡
NMB48 - Boku wa Inai (2016)
กลุ่มไอดอลสาวญี่ปุ่น NMB48 วงน้องสาวของ AKB48 ซึ่งมีเธียเตอร์อยู่ในย่านนัมบะ จังหวัดโอซาก้า ก็เป็นอีกหนึ่งวงที่เคยได้เดินทางมาถ่ายทำมิวสิควิดีโอที่ประเทศไทยเหมือนกันนะ กับเพลงที่มีชื่อว่า Boku wa Inai ผลงานซิงเกิ้ลที่ 15 ของวง NMB48 ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559 และได้อันดับ 1 Oricon Chart ประจำสัปดาห์ด้วย
เพลง Boku wa Inai เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักในฤดูร้อนอันแสนเศร้า ประกอบด้วยสมาชิกเซมบัตสึรวมทั้งหมด 16 คน โดยมี วาตานาเบะ มิยูกิ (Watanabe Miyuki) หรือ มิลกี้ มาทำหน้าที่ในตำแหน่งเซนเตอร์ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะจบการศึกษาออกจากวง
สำหรับในส่วนของการถ่ายทำมิวสิควิดีโอ ในตอนนั้นทางวงได้ตัดสินใจเดินทางเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย โดยมีสถานที่ถ่ายทำหลักๆ อยู่ในหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก จังหวัดนนทบุรี
ซึ่งในพาร์ทสตอรี่ของ MV เพลงนี้ จะเป็นเรื่องราวของมิลกี้ที่ได้ตัดสินใจออกเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยเพียงลำพัง เริ่มจุดสตาร์ทตั้งแต่ที่สถานีรถไฟหัวหิน หลังจากนั้นก็ได้ไปตามสถานที่ต่างๆ มากมาย แต่ปรากฏว่าในระหว่างที่กำลังเดินเที่ยวชมวิวเพลินๆ อยู่นั้น ไม่ว่าจะไปตรงไหน ก็จะเจอกับเหล่าเพื่อนๆ สมาชิกในวงโผล่อยู่ตามที่ต่างๆ ตลอดทางเลยทีเดียว…
ถ้าแอดเป็นมิลกี้คงได้มีหลอนกันไปข้างนึงแล้วล่ะค่ะ 5555 。:゚(。ノω\。)゚・。
นอกจากในพาร์ทสตอรี่แล้ว ก็ยังมีพาร์ทการแสดงที่สาวๆ ได้เต้นเพลงนี้อยู่ตรงริมหาดหัวหินในชุดว่ายน้ำด้วย ซึ่งทางวงก็ได้อัพโหลดคลิปทั้ง 2 เวอร์ชั่นลงในช่องยูทูป อฟช ของวง NMB48 เป็นที่เรียบร้อย แต่เป็นในรูปแบบ Short Version ไม่เต็มเพลงนะ
และด้วยความที่ตัวเพลงได้ทำออกมานานหลายปีแล้ว การจะได้เห็นสาวๆ มารวมตัวกันอีกครั้งก็คงจะยากอยู่เหมือนกัน เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ในเพลงนี้ได้จบการศึกษาออกจากวงกันเกือบทุกคนแล้ว จะเหลือเพียงแค่ “คาโต้ ยูกะ” (Kato Yuka) และ “ชิบุยะ นางิสะ” (Shibuya Nagisa) เท่านั้นที่ยังคงเป็นสมาชิกของวง NMB48 จนถึงปัจจุบันนี้ (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565)
THE BOOM - Manatsu No Kiseki (1993)
ใครที่นึกถึงบรรยากาศในกรุงเทพฯ สมัยยุค ‘90 ขอแนะนำให้เข้าไปชมมิวสิควิดีโอเพลงนี้เลยจ้า Manatsu No Kiseki ผลงานของวงร็อคญี่ปุ่นนามว่า THE BOOM ประกอบไปด้วยสมาชิก 4 หนุ่ม ได้แก่ คุณมิยาซาวะ คาซึฟุมิ (Miyazawa Kazufumi) นักร้องนำ-มือกีต้าร์, คุณโคบายาชิ ทาคาชิ (Kobayashi Takashi) มือกีต้าร์, คุณยามาคาวะ ฮิโรมาสะ (Yamakawa Hiromasa) มือเบส และคุณโทจิงิ ทาคาโอะ (Tochigi Takao) มือกลอง
พวกเขาทั้ง 4 ได้ก่อตั้งวงนี้ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2529 และได้เดบิ้วท์อย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2532 ซึ่งก็ได้ออกผลงานเพลงสร้างชื่อเสียงเรื่อยมา อาทิ เพลง “Hoshi no Love Letter”, “Shima Uta” และ “Kaze ni Naritai” จนเมื่อครบรอบเดบิ้วท์ 25 ปี ในปี พ.ศ. 2557 พวกเขาก็ได้ตัดสินใจยุบวงและแยกย้ายกันไปเติบโตในเส้นทางของตนเอง
สำหรับเพลง Manatsu No Kiseki นี้ก็เป็นผลงานซิงเกิ้ลที่ 12 ของวงที่ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 และสามารถทำอันดับใน Oricon Chart ได้สูงสุดอยู่ในอันดับที่ 16
ในส่วนของการถ่ายทำมิวสิควิดีโอนั้น พวกเขาก็ได้เลือกมาถ่ายทำในกรุงเทพฯ โดยตลอดทั้ง MV เราจะได้เห็นเหล่าสมาชิกในวงออกเดินทางไปตามหลายๆ ย่านในกรุงเทพฯ ด้วยรถตุ๊กตุ๊ก เรือหางยาว รวมถึงยังได้เดินเท้าไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ ด้วย อย่างที่แอดเห็นแล้วพอจะเดาได้ก็น่าจะมีแถวย่านเยาวราช-สำเพ็งแน่ๆ ล่ะ 1
นอกจากสมาชิกในวงซึ่งนำทีมโดยคุณคาซึฟุมิเดินร้องเพลงพร้อมกับเล่นกีต้าร์ไปเกือบตลอดทางแล้ว พวกเขาก็ยังได้ถ่ายทอดบรรยากาศให้เห็นด้วยว่าวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ ในสมัยนั้นมีการดำรงชีวิตอย่างไร ใครที่อยากรู้ ต้องกดเข้าไปชมกันให้ได้นะคะ
แต่ถ้าถามว่า…แล้วแอดรู้ได้ไงว่ามีเพลงนี้เข้ามามาอยู่ในลิสต์ด้วย ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่า แอดรู้มาด้วยความบังเอิญจริงๆ จ้าาา แบบว่ากดสุ่มฟังเพลงตามคลิปในยูทูปไปเรื่อยๆ จนมาถึงเพลงนี้ ซึ่งแวบแรกที่ได้ยินเสียงไดอะล็อกผู้หญิงคุยกัน 2 คนนี่แหละ ที่ทำเอาตกใจเลยว่าทำไมพอจะฟังเพลงญี่ปุ่นแล้วถึงมีเสียงภาษาไทยออกมา แต่พอได้เห็นตัว MV แล้วก็ถึงบางอ้อเลย โอเค รู้เรื่อง 5555 (○´∀`○)ノ
Hirai Ken - Mahoutte Itte Ii Kana? (2016)
คุณฮิราอิ เคน (Hirai Ken) ศิลปินหนุ่มชาวญี่ปุ่นแท้ๆ… (จริงๆ นะเออ (´;ω;`)ウッ) ฉายา “เจ้าพ่อ R&B ของญี่ปุ่น” ที่มีเพลงฮิตติดหูอย่าง “Hitomi wo Tojite” เพลงประกอบละครญี่ปุ่นเรื่อง “อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก” (Crying Out Love, In the Center of the World) และ “POP STAR” เพลงประกอบละครญี่ปุ่นเรื่อง “Kiken na Aneki” (Dangerous Beauty) ก็เคยได้เดินทางเข้ามาถ่ายทำมิวสิควิดีโอในประเทศไทยเช่นกัน กับเพลงนี้เลยจ้าา Mahoutte Itte Ii Kana?
เพลง Mahoutte Itte Ii Kana? เป็นผลงานซิงเกิ้ลที่ 40 ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เป็นเพลงช้าแนวบัลลาดเรียบง่ายที่แต่งขึ้นด้วยกีต้าร์โปร่ง โดยตัวคุณเคนเป็นคนแต่งเนื้อร้องกับทำนองเอง และมีคุณนากาโอกะ เรียวสุเกะ (Nagaoka Ryosuke) นักร้องนำและมือกีต้าร์จากวง PETROLZ เป็นคนเรียบเรียง
ถึงแม้ว่าซิงเกิ้ลนี้จะทำยอดขายในสัปดาห์แรกได้สูงสุดอยู่เพียงอันดับที่ 15 ของ Oricon Chart แต่ในส่วนของยอดดาวน์โหลดเพลงดิจิตอลตามช่องทางต่างๆ ทั้ง iTunes, RecoChoku, mora และ music.jp กลับได้อันดับ 1 ไปครอง คาดว่าน่าจะเป็นเพราะทางต้นสังกัดได้ปล่อยผลงานให้เหล่าแฟนเพลงได้เข้าไปอุดหนุนดาวน์โหลดกันก่อนที่ตัวแผ่น CD ซิงเกิ้ลจะออกวางจำหน่ายจริงนั่นเอง
สำหรับในส่วนของการถ่ายทำมิวสิควิดีโอนั้น ทางคุณเคนและทีมงานก็ได้ลงทุนเดินทางมาถ่ายทำถึงในประเทศไทยท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุ โดยเน้นถ่ายทำในซีนร้องเพลงแสดงสดตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แม้จะมีอุปสรรคในเรื่องของกำแพงภาษา แต่คุณเคนก็ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกในบทเพลงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนี้ ในตัว MV เองก็ยังได้เผยให้เห็นถึงสภาพบรรยากาศภายในกรุงเทพฯ รวมถึงสีหน้าและอารมณ์ของชาวไทยส่วนหนึ่งในมุมมองที่ค่อนข้างซีเรียส จริงจัง ซึ่งต่างจาก MV เพลงอื่นๆ ที่นำเสนอด้วยภาพลักษณ์ความสดใสและความสนุกสนานเมื่อได้มาเที่ยวเมืองไทย
จะว่าไปใครที่ได้ดู MV เพลงนี้แล้ว รู้สึกคุ้นๆ กับย่านไหนเป็นพิเศษบ้างคะ? ส่วนตัวแอดนั้นคุ้นๆ กับบรรยากาศแถวถนนข้าวสารและถนนไกรสีห์ในช่วงยุคก่อนปรับปรุงพื้นที่ล่ะ แต่ในซีนอื่นๆ บางซีนแอดดูแล้วก็เดาไม่ออกเลยว่าเป็นที่ไหน ใครที่ดูแล้วรู้ก็เข้ามาแชร์พิกัดกันได้น้าา
ปล.น่าเสียดายที่ตัว MV มีแต่แบบ Short Version ไม่งั้นคงได้ฟังกันแบบเต็มเพลงแล้วล่ะค่ะ มุแงง (T∇T)
Koda Kumi - COME WITH ME (2003)
คุณ โคดะ คุมิ (Koda Kumi) ก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เคยได้เดินทางเข้ามาถ่ายทำมิวสิควิดีโอในเมืองไทยเช่นกัน กับผลงานซิงเกิ้ลที่ 8 ที่มีชื่อว่า COME WITH ME ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2546 และสามารถทำอันดับใน Oricon Chart ได้สูงสุดอยู่ในอันดับที่ 14
ใน MV เพลง COME WITH ME นี้ ว่ากันว่าทางทีมงานได้เลือกโลเคชั่นสถานที่ถ่ายทำตรงแถวเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมีฉากหลักๆ เป็นงานปาร์ตี้ริมหาดยามค่ำคืนที่คุณคุมิได้ออกมาร้องเพลงและเต้นรำอยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก สลับกับฉากนั่งร้องเพลงบนหาดทรายยามเย็นที่มีทะเลพัทยาเป็นแบ็คกราวนด์ และฉากโคลสอัพฉายเดี่ยวในลุคเท่สุดคูล
ถึงแม้จะไม่มีฉากที่พอจะได้เห็นภาพชัดๆ ในแวบแรกว่าถ่ายทำอยู่ตรงไหน แต่สิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าทางทีมงานได้เลือกเดินทางเข้ามาถ่ายทำ MV ในไทยจริงๆ ก็คือ ฉากบทสนทนาของชายหนุ่มไทย 3 คน ที่ออกมาตอนก่อนเริ่มอินโทรเพลงนี้นั่นเองจ้า ถ้าใครอยากรู้ว่าพวกเค้าพูดคุยอะไรกันบ้าง ต้องตามเข้าไปชม MV กันให้ได้นะคะ 5555
คุณโคดะ คุมิ เป็นนักร้องสาวชาวญี่ปุ่นที่แจ้งเกิดเข้าสู่วงการบันเทิงเมื่อปี พ.ศ. 2543 และมีผลงานเพลงซึ่งเป็นที่จดจำออกมามากมาย อาทิ เพลง Ai no Uta, you, Butterfly ฯลฯ ในขณะเดียวกัน เธอก็ยังเป็นพี่สาวแท้ๆ ของนักร้องสาว misono ด้วย
ทางด้านชีวิตส่วนตัว คุณโคดะ คุมิ ได้แต่งงานกับคุณ KENJI03 นักร้องนำวง BACK-ON ปัจจุบันมีลูกชายด้วยกัน 1 คน
จนถึงทุกวันนี้ คุณคุมิก็ยังคงออกผลงานเพลงมาให้ได้ฟังกันอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ได้ออกผลงานอัลบั้มชุดใหม่มาให้ได้ฟังกันแล้วกับอัลบั้มที่มีชื่อว่า “heart” ซึ่งหลายๆ เพลงในอัลบั้มชุดนี้ก็มี MV ให้ชมกันผ่านช่องยูทูปออฟฟิเชี่ยลแชนแนลเป็นที่เรียบร้อย ใครที่คิดถึงผลงานของนักร้องสาวคนนี้ก็ไปหามาฟังกันได้จ้าา v(。・ω・。)ィェィ♪
INTERSECTION - Hot Water (2019)
วง INTERSECTION เป็นกลุ่มศิลปินบอยแบนด์จากค่าย Avex ที่ประกอบด้วยสมาชิก 4 หนุ่มลูกครึ่ง ได้แก่ MIKA HASHIZUME (Mika], KAZUMA MITCHELL (Kaz], WILLIAM AOYAMA (William) และ CAELAN MORIARTY (Caelan) โดยชื่อวง INTERSECTION มีที่มาจาก “สถานที่ที่สมาชิกทั้ง 4 เกิดและเติบโตในสถานที่และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน” ซึ่งผลงานเพลงส่วนใหญ่ของวงจะมีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเจาะกลุ่มตลาดเพลงอินเตอร์โดยเฉพาะ และมีกลุ่มแฟนคลับจากในหลายๆ ประเทศ รวมถึงในประเทศไทยด้วย
สำหรับเพลง Hot Water ก็เป็นหนึ่งในผลงานเพลงจากอัลบั้มชุด INTERSECTION ที่ออกวางจำหน่ายแบบดิจิตอลดาวน์โหลดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562 โดยในครั้งนั้น หนุ่มๆ ทั้ง 4 ก็ได้เลือกมาถ่ายทำมิวสิควิดีโอในเมืองไทยของเรานั่นเองงง(*^ワ^*)
ภายใน MV เราจะได้เห็นทั้ง 4 หนุ่มอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ในไทย ทั้ง ม.กรุงเทพ, ร้าน Flamenco ภายในห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์, โรงแรม Furama Silom รวมไปถึงบรรยากาศท่ามกลางตลาดนัดและวิวบนตึกสูงๆ จากดาดฟ้าตึก กสท.บางรัก ที่มองเห็นตึกแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ ในกรุงเทพฯ มากมาย เช่น ตึกมหานคร, ตึกใบหยก 2, ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม ฯลฯ
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ในตอนนี้ทางวง INTERSECTION ไม่ได้มีผลงานใหม่ๆ ออกมาให้ฟังกันแล้ว เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางต้นสังกัดได้ออกมาประกาศว่าได้ตัดสินใจยุติกิจกรรมของวงไปแบบไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 หลังจากที่ Mika ได้ผ่านออดิชั่นรายการ Produce Camp 2021 ในประเทศจีนและได้เดบิ้วท์เป็นหนึ่งในสมาชิกวง INTO1 อีกทั้งทาง Kaz และ William เองก็ได้สิ้นสุดสัญญากับทางค่าย Avex เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ ( ノω-、)
chelmico - Highlight (2017)
chelmico ยูนิตดูโอ้แรปเปอร์สาวสุดเท่ที่ประกอบด้วย 2 สมาชิก ได้แก่ Rachel (เรเชล) และ Mamiko (มามิโกะ) ทั้งคู่ได้เจอกันครั้งแรกที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขานิชินิปโปริ จากการแนะนำของเพื่อน ด้วยความที่ทั้งคู่ได้ทำงานถ่ายแบบและเป็นแฟนคลับของวง RIP SLYME เหมือนกัน ก็เลยเริ่มสนิทกันมาเรื่อยๆ จนได้มาทำงานเพลงด้วยกันในที่สุด และเริ่มออกผลงานเพลงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับมิวสิควิดีโอเพลงที่ทั้งคู่ได้เดินทางมาถ่ายทำในเมืองไทย ก็คือเพลง Highlight ซึ่งเป็นเพลงที่อยู่ในมินิอัลบั้มชุด EP ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560
จากใน MV เพลงนี้ เราจะได้เห็นทั้ง Rachel และ Mamiko สนุกกับการท่องเที่ยวผจญภัยไปตามสถานที่ต่างๆ ในเมืองไทย โดยโลเคชั่นหลักๆ ก็อยู่ในกรุงเทพฯ และอยุธยานั่นเอง
ซึ่งสถานที่ที่ปรากฏอยู่ใน MV เพลงนี้ก็มีอยู่หลายแห่งเลย เท่าที่แอดดูแล้วพอจะจำได้ก็จะมีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, วัดอรุณราชวราราม, สวนลุมพินี, สวนเฉลิมหล้า, วัดโลกยสุธาราม, วัดพระศรีสรรเพชญ์, สุสานเครื่องบิน และซอยชนะสงครามจ้าา
เพื่อนๆ คนไหนที่ดู MV แล้วเจอสถานที่อื่นๆ นอกเหนือจากนี้อีกก็แวะเข้ามาคอมเม้นท์บอกเพิ่มเติมกันได้นะ(〃^∇^)o
TRF - Where to begin (2006)
TRF เป็นกลุ่มศิลปินญี่ปุ่นจากค่าย Avex ที่เดบิ้วท์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 5 คน ได้แก่ DJ KOO, SAM, ETSU, YU-KI และ CHIHARU
หลายๆ คนที่ได้ยินชื่อวง “TRF” อาจจะงง ไม่รู้จักว่าพวกเขาเป็นใคร แต่ถ้าใครเติบโตมาในยุค ‘90 แล้วเคยได้ยินเพลง “survival dAnce ~no no cry more~” ที่เป็นเพลงประกอบละครญี่ปุ่นเรื่อง “17 Sai -at seventeen-” หรือที่มีชื่อในภาษาไทยว่า “สาวน้อยทาคุมิ” ก็คงต้องมีร้องอ๋อกันบ้างล่ะ เพราะว่าเพลงดังกล่าวเป็นผลงานของวง TRF นั่นเองจ้าา \(^ ^)/
แต่สำหรับในบทความนี้ แอดจะขอมาแนะนำเพลงนี้เลย Where to begin ผลงานซิงเกิ้ลที่ 26 ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2549 ซึ่งในตอนนั้นนับได้ว่าเป็นการคัมแบ็คกลับมาทำวงกันอีกครั้งหลังจากที่หยุดพักกิจกรรมวงไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542
ความพิเศษของเพลงนี้ก็คือ ทางวงได้ลงทุนบินมาถ่ายทำ MV กันถึงที่เมืองไทยเลยทีเดียว แถมในแต่ละฉากก็มีการเต้นแบทเทิลกันตลอดทั้งเพลงด้วย ทำให้บรรยากาศภาพรวมออกมาสนุกสนานมากๆ
ถึงแม้โลเคชั่นที่เลือกถ่ายทำกันจะไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ที่ไหน แต่ก็ยังมีฉากที่คุณ YU-KI นักร้องหลักของวงได้ออกไปยืนอยู่บนถนนท่ามกลางฉากที่มีป้ายโฆษณาภาษาไทย รถยนต์ติดเลขทะเบียนภาษาไทย และรถแท็กซี่ไทยที่วิ่งผ่านตัดฉาก ทำให้เราสามารถยืนยันข้อมูลได้ว่าพวกเขาได้เคยเดินทางมาถ่ายทำในเมืองไทยจริงๆ ค่ะ (´ω`*)
แต่ใดๆ แล้วนั้น ฉากเครื่องบินยักษ์ CG ที่วิ่งผ่านตึกแถวทาวน์เฮ้าส์แบบระยะประชิด มันก็ออกจะแลดูเกินจริงสำหรับแอดไปหน่อยนะ 555 (*′艸`)
WORLD ORDER - FIND THE LIGHT (2017)
ใครที่เป็นสายตามงานอีเว้นท์เกี่ยวกับญี่ปุ่น จะต้องรู้จักวงนี้อย่างแน่นอน!! WORLD ORDER กลุ่มศิลปินชายล้วนผู้มาพร้อมกับชุดสูทผูกเนคไทตามแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน ที่มีการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะท่าเต้นที่แสดงถึงความแข็งแกร่งแต่ให้ความรู้สึกราวกับเป็นหุ่นยนต์
พวกเขาได้เคยเดินทางมาทำการแสดงในเมืองไทยด้วยนะ ในช่วงราวๆ ปี พ.ศ. 2559-2560 โดยในปี พ.ศ. 2560 นอกจากจะมาร่วมแสดงในงาน JAPAN EXPO IN THAILAND 2017 แล้ว พวกเขาก็ยังได้ถือโอกาสถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลง FIND THE LIGHT ด้วย
ใน MV เพลงนี้ เราจะได้เห็นสมาชิกทั้ง 5 ของเพลงนี้ ได้แก่ Uchiyama Hayato, Morisawa Yusuke, Takahashi Akihiro, Takashi Jonishi และ Tomita Ryuta ออกวาดลวดลายการแสดงตามสถานที่ต่างๆ ในย่านสยามที่ทุกคนรู้จักกันดี ทั้งลานพาร์คพารากอน, ลานกว้างตรงสกายวอล์คหน้ามาบุญครอง (MBK Center], กลางถนนพระราม 1 ใกล้สถานีรถไฟ BTS สยาม อีกทั้งยังได้ไปถ่ายทำตรงซอยคาวบอย ย่านอโศก และที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย
ที่จริงแล้ว เพลง FIND THE LIGHT เป็นหนึ่งในผลงานซิงเกิ้ลชุดแรกของวง WORLD ORDER ที่ออกโปรโมทพร้อมกับเพลง PERMANENT REVOLUTION โดยออกวางจำหน่ายซิงเกิ้ลเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 และได้อันดับใน Oricon Chart ประจำสัปดาห์สูงสุดในอันดับที่ 26 แต่ด้วยความที่เพลง FIND THE LIGHT เป็นหนึ่งในเพลงที่แฟนคลับชื่นชอบกันมาก แต่กลับไม่มี MV ให้ชม เหล่าสมาชิกในวงจึงได้ตัดสินใจถ่ายทำ MV เพลงนี้เพื่อตอบสนองกระแสเรียกร้องของแฟนคลับนั่นเอง
วง WORLD ORDER ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2552 โดย Sudo Genki อดีตนักมวย K-1 ชื่อดังของญี่ปุ่น โดยผลงานเพลงเปิดตัวครั้งแรกของวงนี้ก็คือเพลง “World Order” ซึ่งมีชื่อเดียวกับวงเลยจ้า ซึ่งในปัจจุบัน วง WORLD ORDER เค้าก็ยังมีผลงานออกมาให้เราได้ชมกันอยู่นะ ใครที่คิดถึงก็ไปตามชมกันต่อได้ในช่อง YouTube Channel ของวงได้เลย (o゚v゚)ノ
Snow Man - Snow World (2021)
นับได้ว่าเป็น MV เพลงญี่ปุ่นเพลงล่าสุดที่ได้เดินทางเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย ณ เวลานี้แล้วล่ะค่ะ สำหรับมิวสิควิดีโอเพลง Snow World เพลงรองจากผลงานซิงเกิ้ลเดบิ้วท์ชุด “D.D. / Imitation Rain” ของ 9 หนุ่มวง Snow Man อดีตซับยูนิตของกลุ่มเด็กฝึกหัดค่ายจอห์นนี่ส์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 และได้เดบิ้วท์อย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2563
ในตอนนั้น วง Snow Man ได้เดบิ้วท์พร้อมกับวง SixTONES โดยออกวางจำหน่ายซิงเกิ้ลเดบิ้วท์ร่วมกันเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2563 ซึ่งก็สามารถทำยอดขายออกมาได้ประมาณ 1.3 ล้านแผ่น และคว้าอันดับ 1 Oricon Chart ประจำสัปดาห์มาได้เป็นผลสำเร็จ
ถึงแม้ว่าตัวเพลง Snow World จะออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2563 แต่ในส่วนของ MV นั้นกลับถูกปล่อยออกมาทางช่อง YouTube Channel ทางการของวงในอีก 1 ปีถัดมา หรือเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2564 แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ เลยล่ะค่ะ (≧∀≦)
สำหรับเบื้องหลังการถ่ายทำ MV เพลงนี้ ก็เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่ทั้ง 9 หนุ่มได้เดินทางมาแสดงในไทยที่งาน Japan Expo Thailand 2020 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิดได้ไม่นาน
โดยใน MV เราจะได้เห็นหนุ่มๆ ออกท่องโลกผจญภัยในกรุงเทพโซนชั้นใน ผ่านสถานที่ต่างๆ ซึ่งเท่าที่พอจะสามารถระบุสถานที่ได้ก็จะมี เวิ้งนาครเขษม (ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลไปแล้ว], เสาชิงช้า, วัดสุทัศน์เทพวราราม, วัดอรุณราชวราราม, ปากคลองตลาด และท่ายอดพิมาน
นอกจากนี้ก็ยังมีการสอดแทรกหลายๆ สิ่งที่พวกเขารู้สึกอะเมซิ่งเมื่อได้มาเที่ยวในไทย ทั้งรถตุ๊กตุ๊ก รถเมล์สีชมพูสาย 8 (ที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ตำนานแล้ว) เรือหางยาว รวมถึงแมลงทอดด้วย
ใครที่ยังไม่ได้ชม MV เพลงนี้ บอกเลยว่าต้องดูนะ เค้าทำออกมาได้ดีมากจริงๆ และก็ได้แต่หวังว่าหลังจากนี้ทั้ง 9 หนุ่ม วง Snow Man จะมีโอกาสได้เดินทางมาที่ประเทศไทยอีกนะ แอดนี่รอตามข่าวเลย (o◕ฺω◕ฺ)♦♫⁺♦